ในยุคปัจจุบันที่มีโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทอย่างมาก การท่องโลกบันเทิง ไม่ว่าภาพยนตร์ หนังสั้น เพลง ฯลฯ จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย สามารถควบคุมหรือเหมือนเป็นเจ้าของความบันเทิงได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องรอให้เจ้าของผลงานปล่อยให้ดูเท่านั้น ปัจจุบันการดูหนังสามารถเลือกดูได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยควบคุมแค่ปลายนิ้วเองการเข้าโรงภาพยนตร์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร ยิ่งคนที่อยู่ในเมือง ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่เหมือนสมัยก่อน ทุกวันนี้เราสามารถเสพความบันเทิงได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา เลือกได้ตามใจทั้งในโทรศัพท์มือถือและโทรทัศน์ที่บ้าน ขอแค่สามารถเชื่อมอินเทอร์เน็ตก็พอ การเข้าโรงหนังเลยไม่ใช่กระแสหลักอีกต่อไป เมื่อมีโลกออนไลน์มามีบทบาทในชีวิตประจำวัน แต่การดูหนังในโรงก็ยังมีเสน่ห์ ได้บรรยากาศ ที่ไม่สามารถจะทดแทนด้วยสื่อความบันเทิงรูปแบบอื่นได้เลย การได้เข้าโรงหนังอีกครั้งของผู้เขียนในรอบ 3 ปี จึงเป็นสิ่งที่อยากจะเขียนถึงเมื่อปี 2563 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก จนทำให้โรงภาพยนตร์มีการปิดกิจการไปชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ภาพยนตร์บางเรื่องมีการเลื่อนฉายในโรง บางเรื่องก็เปลี่ยนการฉายผ่านสตรีมมิ่งหรือช่องทางอินเทอร์เน็ตแทน สามารถอยู่บ้านก็ดูได้ ปลอดภัยจากโรคภัยได้ดีผู้เขียนไม่ได้เข้าโรงหนังบ่อย เหตุผลหนึ่งเพราะอยู่ไกลจากตัวเมือง นานๆ จะได้เข้าไปทำธุระและจังหวะตรงกับที่มีหนังอยากดูเข้าฉาย ปีนี้ 2566 มีโอกาสไปโรงภาพยนตร์อีกครั้ง (ในรอบ 3 ปีกว่า) ทั้งๆ ที่คนอื่นอาจจะเข้าไปชมก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว ที่เข้าไปโรงภาพยนตร์อีกครั้ง เพราะอยากไปดูหนังแอคชั่นคอมเมดี้ เรื่อง Ride On หรือ "ควบสู้ฟัด" ของ "เฉินหลง" (Jackie Chan) ซึ่งตอนเกิดโรคระบาดโควิด 19 ใหม่ๆ ก็ตรงกับหนังเรื่องหนึ่งของเขา คือ "Vanguard" หน่วยพิทักษ์ฟัดข้ามโลก ที่ต้องเลื่อนฉายไปในตอนนั้นเหมือนกัน ในวันเสาร์ ในรอบ 11.15 น. เป็นรอบแรกของหนัง "ควบสู้ฟัด" ผู้ชมเข้าดูไม่มาก ไม่แน่ใจเป็นเพราะหนังไม่น่าสนใจของคนส่วนใหญ่ หรือเป็นช่วงที่ห้างเพิ่งเปิด คนยังมาไม่เยอะ อาจจะรอดูรอบเย็นดีกว่า หรือเป็นบรรยากาศหลังโควิดก็ไม่แน่ใจ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกว่าการมีคนเข้าดูน้อยก็ส่งผลต่อธุรกิจโรงภาพยนตร์ นักแสดง ผู้สร้าง ผู้ลงทุนเช่นกัน คนดูน้อยอาจจะดูเป็นส่วนตัวดี แต่ก็ขาดบรรยากาศของเสียงหัวเราะ เสียงตื่นเต้น เสียงความกลัวจากที่นั่งผู้ชมคนอื่นๆ ไป ยิ่งวันที่ดูเกิดไฟดับช่วงท้ายๆ ของหนังอีก เลยทำให้ความต่อเนื่องในการชมลดลงไปพอสมควร แต่ก็ยังได้ดูจนจบ ยังคงได้รู้สึกดีๆ กับโรงหนัง ยิ่งเป็นหนังที่ชอบก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะถือว่าเป็นการเพิ่มพลังให้ตนเองอีกทางหนึ่ง แม้ว่าโลกของภาพยนตร์จะมีทางเลือกให้ชมมากขึ้นก็ตาม แต่ด้วยกระแสโลกที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน แต่ส่วนตัวก็มองว่าไม่มีอะไรมาทดแทนโรงภาพยนตร์ได้อย่างแน่นอน ทั้งแสง เสียง บรรยากาศ สถานที่ รวมไปถึงนักแสดงที่เราชื่นชอบ ก็ไม่สามารถมีการทดแทนได้เช่นกัน หากเราติดตามหรือชื่นชมผลงานนักแสดงของใคร กาลเวลาที่เปลี่ยนไปก็ยังทำให้เราอยากติดตามผลงานของเขาต่อไปได้เสมอ การไปดูในโรงภาพยนตร์ในครั้งนี้ นอกจากได้รับความบันเทิงแล้ว ก็ยังได้ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นจากสาระในภาพยนตร์นำมาต่อยอดในชีวิตได้ แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องของความบันเทิงก็ตาม หากเราหยิบจับข้อคิดหรือความคิดในสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอได้ การใช้ชีวิตของเราก็จะมีคุณค่าและสร้างสรรค์ต่อไปได้เช่นกันทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียน ขอบคุณ canva สำหรับภาพปก7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์