เอกชนจี้รัฐ! ต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพิ่มอีก 1 ปี

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจปี 2566 มีความไม่แน่นอนสูงและยังมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ดังนั้นสมาคมฯ ร่วมกับสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ประสานงานเพื่อขอเข้าพบนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ เพื่อยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นี้ โดยเสนอขอให้ขยายเวลาอีก 1 ปี ให้มีผลมาตรการถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 

โดยมีรายละเอียด คือ 1.ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่มีการต่ออายุมาตรการผ่อนปรนการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ส่งผลกระทบกับการขอสินเชื่อ ซึ่งจำเป็นต้องมีเงินดาวน์ สำหรับที่อยู่อาศัยหลังที่ 2-3 เป็นต้นไป ในขณะนี้กำลังซื้อในภาพรวมไม่ได้ฟื้นตัวมากนัก

2.มาตรการลดค่าโอนและจดจำนองจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 0.01 หรือล้านละ 30,000 บาทลดเหลือล้านละ 300 บาท ทั้งการโอนบ้านใหม่และบ้านมือสอง จะหมดอายุวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เช่นเดียวกัน โดยภาคเอกชนขอให้มีการขยายเพดานราคาจาก 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาทแรก เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยทุกเซกเมนต์ทั้งตลาดบน-กลาง-ล่าง โดยรัฐจะได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีในกลุ่มสอนค้าราคาสูงได้มากขึ้น

เนื่องจากมาตรการลดค่าโอนในปัจจุบันกำหนดเพดานไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งรัฐช่วยตลาดกลาง-ล่างเป็นหลัก มีสัดส่วนร้อยละ 40 ที่ผ่านมาได้ช่วยระบายสต๊อกสินค้ากลุ่มนี้ออกไปมากพอสมควรแล้ว ในขณะที่ยังมีสินค้าระดับกลาง-บนค้างในตลาดอีกจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้มีการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น จึงควรขยายเพดานราคาเป็น 5 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 70-80 ของตลาดรวม 

โดยเสนอให้ผู้ซื้อทุกราคาสามารถใช้สิทธิ์ลดค่าโอน 5 ล้านบาทแรก เช่น ซื้อบ้าน 10 ล้านได้รับสิทธิ์ลดค่าโอน-จดจำนอง 5 ล้านแรก ส่วนราคา 6-10 ล้านบาทให้เสียภาษีตามอัตราปกติ 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN