ผัวขี้หึงเปิดปาก จบชีวิตเมียสาวโอเกะ เผยปมหมอผีทำเสน่ห์ ขอขมา-ลูกฮือประชาทัณฑ์
ผัวขี้หึงเปิดปาก จบชีวิตเมียสาวโอเกะ เผยปมหมอผีทำเสน่ห์ ขอขมา-ลูกฮือประชาทัณฑ์ คดีดังนาทวี สงขลา ตร.จับคารถตู้ขณะนั่งหนีไปบึงกาฬ
จากคดีพบร่างนางสาวมาลี สามา อายุ 50 ปี สาวพนักงานร้านคาราโอเกะในอ.นาทวี จ.สงขลา หมกพงหญ้าริมถนนสายคูศักดิ์สิทธิ์-อ่าวนาว พื้นที่หมู่ 5 ต.คู อ.จะนะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 พ.ย. คาดว่าเป็นฝีมือนายชลิต แก้วนุ่น อายุ 50 ปี สามี ที่ไปรับออกจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เมื่อกลางดึกวันที่ 12 พ.ย. ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
สำหรับความคืบหน้าวันที่ 29 พ.ย.63 ตำรวจจับกุมตัวนายชลิต ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้แล้ว หลังใช้เวลาสืบสวนแกะรอยอยู่ราว 2 วัน โดยเจ้าหน้าที่ 3 หน่วย ทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง ตำรวจภูธร จ.สงขลา และ ชุดสืบสวน สภ.จะนะ
รายงานข่าวว่า พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ และพ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวล รอง ผกก.สส.สภ.จะนะ สั่งให้ตำรวจแกะรอยและสามารถติดตามจับกุมได้ในพื้นที่อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ขณะนั่งรถตู้เดินทางออกจากอ.เมือง จ.สงขลา ปลายทางจ.บึงกาฬ ก่อนควบคุมตัวกลับมายังสภ.จะนะ
จากการสอบสวน นายชลิต ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยให้การสั้นๆ เพียงว่า ทำไป เพราะบันดาลโทสะ และความหึงหวงภรรยาที่เป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ ชอบหายไปนานหลายวัน ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน และหึงหวงกลัวว่าจมีะชายอื่นมาติดพัน
โดยวันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปร้านคาราโอเกะและดื่มกินกับภรรยา ก่อนพาภรรยากลับบ้านพักด้วยกันในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว อ.จะนะ แต่ระหว่างทางก่อนถึงบ้านนั้น กำลังจะแวะไปยังบ้านของหมอผีที่อยู่ใกล้กัน เพื่อให้ภรรยากินน้ำมนต์ และทำพิธีทางไสยศาสตร์ เพื่อความสบายใจ และให้ภรรยารักหลงตนไม่นอกใจ กลับมาอยู่กินเหมือนเดิม
แต่ปรากฏว่าก่อนถึงบ้านหมอผีราว 2 กิโลเมตร ตรงจุดเกิดเหตุ ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และภรรยาได้คว้ามือซ้ายของนายชลิต มากัดถูกเข้าที่หัวแม่มือ จึงเกิดการใช้กำลังกันขึ้น และนายชลิตได้ใช้มีดพกที่ติดตัวมาทำร้ายจนขาดใจ
กระทั่งหลังจากนั้นเมื่อมีชาวบ้านไปพบศพ และกลายเป็นข่าวดังเมื่อช่วงวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านเพื่อนในพื้นที่อ.เมืองสงขลา อยู่ 2 วัน และวันที่ 28 พ.ย.ตัดสินใจขึ้นรถตู้ออกจากจ.สงขลา เพื่อเดินทางหลบหนีไปหาเพื่อนอีกคนที่จ.บึงกาฬ เพื่อกบดานต่อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สืบทราบ และตามมารวบตัวได้ในสุด ขณะกำลังลงจากรถตู้ที่จ.ชุมพร
หลังการสอบสวนแล้วเสร็จ ตำรวจได้พา นายชลิต ผู้ต้องหาไปชี้จุด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิด ทั้งในจุดที่พงหญ้าข้างทางในพื้นที่ ม.5 ต.คู พร้อมกับให้จุดธูปขอขมาศพ ซึ่งนายชลิตด้ขมาภรรยา พร้อมกับก้มลงกราบ และน้ำตาซึม และไม่ยอมพูดอะไร ก่อนที่จะพาต่อไปยังคลองบ้านต้นไทร ที่เป็นจุดโยนมีดพกลงคลอง และไปที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว ซึ่งข้างบ้านพบจุดที่ใช้จุดไฟเผากระเป๋าสะพายของผู้ตาย และยึดเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุ
พร้อมกับพานายชลิตไปทำการขอขมาศพของภรรยาที่ทางญาติตั้งบำเพ็ญกุศลเอาไว้ที่วัดประดู่หมู่ ม.2 ต.ฉาง อ.นาทวี โดยหวิดโดนลูกชาย 2 คนเข้าทำร้ายแก้แค้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ และรีบนำตัวนายชลิตกลับโรงพักในทันที