หนุ่มสาวใน 'ไต้หวัน' ไม่อยากแต่งงาน ฉุดยอดประชากรเกิดใหม่ลดลง
(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนเดินข้ามถนนในนครไทเป เกาะไต้หวันทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน วันที่ 30 มี.ค. 2020)
ไทเป, 16 มี.ค. (ซินหัว) -- ภูมิภาคไต้หวันของจีนกำลังเผชิญภาวะประชากรเกิดใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากคนหนุ่มสาวบนเกาะแห่งนี้ลังเลใจกับการแต่งงานเพิ่มขึ้น
ตัวเลขสถิติจากทางการไต้หวันระบุว่าจำนวนประชากรเกิดใหม่ของไต้หวันแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2023 ด้วยทารกเกิดใหม่เพียง 135,571 คน
ขณะเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไต้หวันมีประชากรเกิดใหม่ 9,663 คน และเสียชีวิต 17,462 ราย ซึ่งทำให้ไต้หวันมีจำนวนประชากรเสียชีวิตมากกว่าเกิดใหม่ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 38
ไต้หวันมีอัตราส่วนผู้หญิงแต่งงานแล้วที่อายุ 25-29 ปี ลดลงจากร้อยละ 23.76 อยู่ที่ร้อยละ 17.72 และอัตราส่วนผู้หญิงแต่งงานแล้วที่อายุ 30-34 ปี ลดลงจากร้อยละ 52.63 อยู่ที่ร้อยละ 41.41
ทั้งนี้ ความไม่เต็มใจจะแต่งงานของคนหนุ่มสาวในไต้หวันมีสาเหตุหลายประการ ทั้งความกังวลเกี่ยวกับเงินเดือน ราคาที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก
ชายแซ่หลินคนหนึ่งเผยว่าเขาและภรรยากังวลว่าจะไม่มีเวลาดูแลลูก และกังวลผลกระทบหากคนใดคนหนึ่งต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก นั่นอาจจะทำให้มีรายได้ไม่พอต่อรายจ่ายทั้งหมด
ปัจจุบันทางการไต้หวันกำลังเสนอเงินอุดหนุนการเลี้ยงดูลูกแก่พ่อแม่ โดยพ่อแม่ในเมืองไทเปที่มีลูกคนแรกจะได้เงินอุดหนุน 40,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 45,000 บาท)
ส่วนพ่อแม่ที่มีลูกคนที่สองหรือคนที่สามจะได้เงินอุดหนุน 45,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 51,000 บาท ) และ 50,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 56,700 บาท ) ตามลำดับ
ไชน่า ไทม์ส หนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนในไต้หวัน ชี้ว่าแม้เงินอุดหนุนดังกล่าวอาจกระตุ้นอัตราการเกิดใหม่ แต่สภาพแวดล้อมของการเลี้ยงลูกและสมดุลระหว่างอาชีพการงานและลูกเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนหนุ่มสาวไม่เต็มใจจะมีลูก