วันนี้เราขออนุญาตรีวิวตัวเองในวันรับปริญญาใบที่ 2 สักหน่อยนะคะ เราเรียนจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ที่มหาลัยรามคำแหง และศึกษาต่อปริญญาโท หลักสูตรรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารรัฐกิจและกฏหมายรุ่น 23 ในมหาลัยรามคำแหง ใครสนใจติดต่อที่มหาลัยได้เลยราคาค่าเรียนไม่สูงมากค่ะ พูดได้เลยว่าไม่มีรามไม่มีเรารักสถาบันมาก555ช่วงที่เราเรียนนั้นเราเลือกเรียนภาคพิเศษวันเสาร์ อาทิตย์ คือทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยและช่วงหลังก่อนจะเรียนจบโควิดก็มาพอดีเป็นอะไรที่ลำบากพอสมควรในการเรียนแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ในโลกปัจจุบันคนที่มีการศึกษาสูงไม่ได้หมายความว่าคุณเก่งและดีที่สุดหรอกนะคะ แต่การศึกษาสำหรับตัวเราแล้วนั้นมันคือใบเบิกทางให้กับชีวิตน้อยๆนี้เท่านั้น บางคนที่ไม่มีการศึกษาก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเลือกนะคะ ทุกคนต่างมีทางเลือกเป็นของตัวเอง แต่สำหรับเราแล้วเราคิดว่าเราไม่ได้มีความสามารถอะไรที่โดนเด่นเท่าไหร่หากในอนาคตมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเราก็คงจะหมดไฟไปแล้ว เราจึงได้ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทเป็นการลงทุนกับตัวเองค่ะใช้เวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น สิ่งที่เราได้ในการศึกษาครั้งนี้นอกจากเราจะได้ความรู้แล้วที่ต่างไปจากการเรียนในชั้นปริญญาตรี นั้นก็คือมิตรภาพ ได้connection ใหม่ๆที่เราไม่สามารถหาได้จากสถานที่อื่นๆเพื่อนของเราที่เข้ามาเรียนรุ่น23 รวม 33 คน ถือว่าไม่เยอะมากแต่อบอุ่นมากค่ะปีนี้ที่มหาลัยรามคำแหงจะได้เข้ารับกับองคมนตรีผู้ที่เป็นตัวแทนพระองค์ ก็จะคล้ายๆกับมหาลัยเอกชน ความสำเร็จของเราที่ได้มาในวันนี้นั้นได้มาเพราะครอบครัวเป็นหลักเลย คนที่คอยสนับสนุนตัวเราให้ก้าวมาถึงวันนี้ได้คนที่ไม่เคยตัดสินเราแต่พร้อมให้ความช่วยเหลือและรับฟัง เราบอกตามตรงว่าเรารู้สึกโชคดีมากที่มีพ่อกับแม่ที่คอยสนับสนุนเราให้ทุกๆเรื่องและทุกๆช่วงเวลาของชีวิตแม้พ่อกับแม่เรานั้นไม่ได้เรียนสูง เป็นเพียงผู้หญิง ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง ทำไร่ ทำสวนส่งลูกเรียนจนมาถึงจุดนี้ได้เราก็ภูมิใจในตัวพ่อกับแม่ของเรามากๆหากใครที่คิดว่ามันไม่จำเป็นแล้ว ก็ไม่ว่ากันนะคะ ต่างคนต่างความคิดต่างจิตต่างใจ เดินทางไหนแล้วมีความสุขเราก็ลองเลือกทางเดินของเราเองดูนะคะ เพราะสิ่งเดียวในชีวิตเราที่ไม่มีใครพรากมันไปจากเราได้นั้นก็คือทัศนคติที่ดี ความรู้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราจะนำมาใช้กับชีวิตของเราเท่านั้น วันที่เราซ้อมรับปริญญาคือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 และรับจริงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 การรับปริญญาใบที่ 2 ต่างกันมากกับการรับปริญญาใบแรก เอาตรงๆนะเรารู้สึกว่าการเรียนปริญญาใบแรกมันรู้สึกยากกว่าการเรียน ปริญญาโท แต่ที่เรารู้สึกว่ายากตอนเรียนปริญญาโทคือตอนที่เราต้องทำ IS นอกนั้นการเรียนสำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันสนุกและมีกิจกรรมให้ทำต่างจากปริญญาตรีอย่างมาก การทำ IS ก็แอบทำเราถอดใจไปเหมือนกันแต่เราสู้ขึ้นมาได้เพราะคิดถึงคนข้างหลัง คนที่เสียเงินให้เรา และคอยส่งกำลังใจมาให้เสมอนั้นคือพ่อกับแม่เราจึงก้าวผ่านมันมาได้ต้องขอขอบคุณตัวเองอีกครั้งที่พยายามอดทนจนได้มีวันนี้ ของคุณทุกๆสิ่งที่กำหนดให้เราเลือกทางเดินนี้ ไม่ว่าทุกคนจะเลือกทางเดินไหนขอให้ทุกคนตั้งใจลงมือทำมันให้ดีที่สุด แล้วคุณจะได้รับรอยยิ้มกับสิ่งที่คุณตั้งใจอย่างแน่นอนเราเขียนรีวิวนี้ขึ้นเพื่อเตือนตัวเราเองให้ลงมือทำ ทำแล้วผลจะเป็นอย่างไรไม่ต้องสนใจถ้าเราทำเต็มที่แล้วไม่ได้อย่างที่หวังก็เริ่มหาสิ่งใหม่ทำจนกว่าจะเจอในสิ่งที่ใช้ที่สุดสำหรับเรา และอยากเขียนเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเหนื่อย และท้อ อย่าเพิ่งยอมแพ้ค่ะ เพราะขนาดเราคนที่ไม่ได้ชอบเข้าเรียน ไม่ชอบอ่านหนังสือแต่เราแต่เราก็ยังผ่านมันมาได้เราจึงเชื่อว่าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้เช่นกันค่ะ อยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้าอย่างมีความหวังและไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรกำลังใจที่ดีที่สุดคือตัวเราเองหากใครที่กำลังศึกษาต่อปริญญาโทอยู่แล้วรู้สึกท้อ อย่าเพิ่งล้มเลิกค่ะ ทำมันต่อไปแล้วคุณจะรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับปลายทางมันคุ้นค่าแค่ไหนและสุดท้ายอยากขอบคุณมหาลัยที่เป็นแหล่งสร้างบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ไม่รู้กี่ลุ้นต่อกี่ลุ้น และอยากขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนไหนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ขอให้คุณจงตั้งใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนี้ให้ได้มากที่สุด แล้วขอให้ทุกคนมีชีวิตที่สดใสและก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปให้ได้นะคะ สู้ๆภาพทุกภาพและหน้าปกโดย ผู้เขียน7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์