หุ้นไทยวันนี้ 24 ตุลาคม 2568 ปิดบวก 11.56 จุดรับแรงหนุนจากเจรจาการค้าสหรัฐ-จี

หุ้นไทย 24  ตุลาคม 2568  ปิดที่ 1,313.91 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด 

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 ตุลาคม 2568) ปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนี SET ปิดที่ 1,313.91 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด หรือ +0.89% มูลค่าการซื้อขายรวม 44,292.69 ล้านบาท สะท้อนแรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม ธนาคาร พลังงาน และสื่อสาร ขานรับปัจจัยบวกจากความคาดหวังผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามทิศทางภูมิภาค

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจาก Sentiment เชิงบวกจากข่าวการพบปะเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐและจีน ซึ่งนักลงทุนคาดว่าจะมีผลดีต่อบรรยากาศการค้าโลก

ในประเทศ แรงซื้อยังคงเน้นไปที่หุ้นกลุ่มธนาคารที่รายงานกำไรไตรมาส 3/2568 ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่กลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสารที่เข้ามาช่วยพยุงตลาดในช่วงท้ายการซื้อขาย

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนี

ระหว่างวัน ดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,321.57 จุด และต่ำสุดที่ 1,305.49 จุด ก่อนปิดตลาดในแดนบวก โดยมีหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 205 หลักทรัพย์ ลดลง 270 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 183 หลักทรัพย์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า

นักวิเคราะห์คาดว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (28 ต.ค. – 1 พ.ย. 2568) จะเคลื่อนไหวในกรอบ “ไซด์เวย์” รอติดตามความคืบหน้าผลการเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,300 จุด และแนวต้านที่ 1,320 จุด

5 หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

1. KBANK มูลค่า 3,051.04 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

2. BBL มูลค่า 2,818.45 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

3. ADVANC มูลค่า 2,693.90 ล้านบาท ปิดที่ 308.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

4. KTB มูลค่า 2,106.45 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

5. SCB มูลค่า 1,978.65 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

สรุปภาพรวม

ตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้อย่างแข็งแกร่งตามตลาดภูมิภาค รับแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกด้านเศรษฐกิจโลกและผลประกอบการกลุ่มธนาคาร พร้อมส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการลงทุนในระยะสั้น หากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปในทิศทางที่ดี