รีเซต

จับตาหุ้นเข้าออก SET50-SET100 ,แรงขายปรับพอร์ตรับบิ๊ก IPO เข้าเทรด

จับตาหุ้นเข้าออก SET50-SET100 ,แรงขายปรับพอร์ตรับบิ๊ก IPO เข้าเทรด
ทันหุ้น
21 มิถุนายน 2565 ( 09:52 )
144
จับตาหุ้นเข้าออก SET50-SET100 ,แรงขายปรับพอร์ตรับบิ๊ก IPO เข้าเทรด

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์ วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ประกาศรายชื้อหุ้นเข้าออก SET50 และ SET100 รอบ 2H65 มีผลในช่วง 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 65 โดยมีหุ้นเข้าออก SET50 3 คู่ และหุ้นออก SET100 4 คู่ ดังภาพทางด้านล่าง ซึ่งส่วนใหญ่รายชื่อเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินในช่วงก่อนหน้า

และตามสถิติในอดีตในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะหุ้นที่เข้า SET50 หุ้นมีโอกาสขยับขึ้นได้เฉลี่ย +3% ตรงกันข้ามกับหุ้นที่ถูกคัดออกมีโอกาสปรับตัวลดลงเฉลี่ย -3.3%


แต่การปรับพอร์ตหุ้นเข้าออก SET50 ในช่วงที่เหลือของปียังไม่จบ เพราะคาดว่าจะมีหุ้น IPO ขนาดใหญ่ถึง 2 บริษัท มีโอกาสเข้าจดทะเบียน และ Fast Track เข้าดัชนี SET50 ได้ ในช่วงเวลา 2H65 นี้ จึงอาจจะเบียดให้หุ้นมี Market Cap เล็กสุด 2 อันดับสุดท้ายใน SET50 ตกชั้นมาอยู่แค่ดัชนี SET100 เท่านั้นได้


เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ จึงประเมินว่าปัจจุบันมีหุ้นอะไรอยู่ในความเสี่ยงตกชั้น SET50 2 บริษัท คือ IRPC, SAWAD มีความเสี่ยงสูงสุด และหุ้นอื่นที่มีความเสี่ยงรองลงมา คือ TISCO , KCE, BLA เป็นต้น ทั้งนี้ต้องรอดูลําดับ Market Cap ในวันที่ หุ้นขนาดใหญ่เข้าตลาดในวันแรกอีกทีหนึ่ง

นอกจากนี้หากดูสถิติในอดีตเวลาที่หุ้นขนาดใหญ่เตรียมเข้าตลาด 1 เดือน พบว่า หุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน มักจะปรับตัวลดลงแรงกว่าปกติ อาทิ 1 เดือนก่อน AWC เข้าตลาด หุ้นกลุ่ม PROP ปรับตัวลง -6.8% หรือตอน 1 เดือน ก่อนหุ้น CRC เข้าตลาด หุ้นกลุ่ม COMM ปรับตัวลง -10.6% แม้ว่าปกติหุ้นทั้ง 2 กลุ่มจะมี Beta ต่ํา แต่ในช่วงเวลานั้นก็ปรับฐานแรงกว่า SET Index มา

ฝ่ายวิจัยประเมินว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการเตรียมเงิน Rebalance พอร์ตของกองทุนไทยและต่างประเทศ ซึ่งปกติมักจะมีข้อกําหนดหรือวิธีการลงทุนแบบ Fully Invest อยู่แล้ว หรืออาจจะถือเงินสดเพียงเล็กน้อยในบางช่วงเวลาเท่านั้น ทําให้การเตรียมเงินในการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในระยะเวลาสั้นๆ นั้นจะเลือกลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นกลุ่มหรืออุตสาหกรรมเดียวกันเป็นลําดับแรกๆ ก่อน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเดียวกันถูกกดดันในช่วงเวลาสั้นๆ ได้

 

ดังนั้นในช่วงเวลาเร็วๆ นี้ อาจเห็นการปรับพอร์ตของกองทุนไทยและต่างประเทศ เพื่อเตรียมซื้อหุ้นประกันขนาดใหญ่ กดดันหุ้นกลุ่ม BANK, FIN, INSUR ในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับสถิติในอดีตที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่อย่างไรก็ตามประเด็นกดดันดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Valuation ของหุ้นแต่อย่างใด ดังนั้นหากย่อตัวลงมาอาจเป็นโอกาสในการสะสมสําหรับการลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้ รวมถึงหุ้นกลุ่ม BANK และ INSUR ยังเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์เวลาดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง