ผมเป็นคนหนึ่งที่ตอนเรียนอยู่ช่วงมัธยมเป็นคนที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือเอามากๆ เหตุผลนั้นก็เพราะตอนหนังสือนั้นไม่ได้ทำให้ผมได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการเช่น ออกไปเล่นกับเพื่อน เดินเที่ยวกินลมชมวิว หรือทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งถ้าต้องมาอ่านในจังหวะที่ไม่อยากอ่านหละก็ ไม่มีคำว่าเข้าหัวเลยสักนิด อ่านได้2ประโยคหัวแล่นไปที่อื่นแล้ว หรือต่อให้อ่านอยู่ใจก็ลอยไปอยู่ที่อื่นตลอดเลยเป็นสาเหตุที่ผมรู้สึกไม่ถูกกับหนังสือเอามากๆแต่เมื่อเริ่มโตจึงเริ่มเข้าใจการอ่านหนังสือนั้นยิ่งได้อ่านยิ่งมองเห็นโลกภายนอกได้กว้างขึ้น และทำให้เราเข้าใจหลายๆสิ่งภายนอกที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อได้ อีกทั้งยังได้รับประสบการณ์ต่างๆจากผู้ที่เขียน ทั้งมุมมองและประสบการณ์ เมื่อผมเข้าใจจุดนี้แล้วผมจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเรื่อยมา แต่ตอนเริ่มอ่านนั้นสมาธิก็หลุดบ่อยๆอ่านไม่ค่อยเข้าใจ และในตอนนี้ผมสามารถอ่านหนังสือได้แทบทั้งวันทุกวันที่ว่างโดยที่สมาธิหลุดน้อยครั้ง ผมจึงอยากมาแชร์ 9 วิธีอ่านหนังสือยังไงให้มีสมาธิและจดจ่อได้นาน1. ความตั้งใจและเป้าหมายนี่เป็นหัวใจหลักในการอ่านหนังสือของผมเลย เพราะทุกครั้งที่ผมอ่านหนังสือผมมีเป้าหมายที่อยากจะได้อยู่ ผมจะคิดกับตัวเองเสมอว่าเปิดหนังสือเล่มนี้อ่าน ผมตั้งใจจะเอาเนื้อหาอะไรจากหนังสือออกมาใช้กับชีวิต หรือกำลังอยากจะเรียนรู้อะไรจากเล่มนั้นๆ2. สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่สงบไม่วุ่นวาย เป็นอีกส่วนสำคัญในการทำให้เราตั้งสมาธิแล้วจดจ่อได้นานขึ้นครับ ผมเคยเอาหนังสือไปอ่านที่โรงพยาบาล หรืออ่านนอกสถานที่ การจับใจความนั้นยากเป็นเท่าตัวแถมอ่านได้น้อยอีกด้วย3. นั่งสมาธิสำหรับผมนั้นการนั่งสมาธิเป็นการฝึกที่จะทำให้ตัวเราจดจ่อไม่วอกแวก และเป็นการเตรียมตัวที่ดีก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือครับ4. สลับแนวหนังสือหลายครั้งที่ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับความรู้จ๋าๆ หัวผมรู้สึกหนักรับความรู้ใหม่ไม่ค่อยไหวแต่ยังอยากอ่านหนังสืออยู่ ผมจะเปลี่ยนแนวหนังสือเป็นแนวที่อ่านง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ หรือเพลิดเพลินไปกับมันได้ง่ายครับ5. อ่านท่อนที่ชอบให้คนอื่นฟังการอ่านท่อนที่เราชอบให้คนข้างตัวฟังนั้น ทำให้ผมได้รู้สึกแบ่งปันและอยากอ่านมากขึ้นอีกเพราะถ้าอ่านเพิ่มก็จะได้เจอกับจุดที่น่าสนใจเพิ่ม แถมการเล่าให้คนอื่นฟังนั้นทำให้เราได้ทวนเนื้อหานั้นซ้ำอีกครั้งด้วย เป็นวิธีที่ผมใช้ประจำเลยครับ6. เขียนสรุปเนื้อหาไปด้วยถ้าเราอ่านอย่างเดียวจะพบกับเนื้อหา 1 ครั้งแต่ถ้าเราจดหรือสรุปใจความออกมาด้วยเราจะได้ทั้งทวนความเข้าใจ และได้ทวนเนื้อหาเพิ่มอีกครั้งนึงด้วยครับ7. ค่อยๆเพิ่มเวลาการอ่านเวลาการจดจ่ออ่านหนังสือนั้นก็เหมือนกับการวิ่งออกกำลังกาย ในช่วงแรกเราอาจวิ่งได้น้อยแต่ถ้าเราหมั่นค่อยๆเพิ่มระยะทางเราจะสามารถวิ่งได้หลายกิโลเลยครับ หนังสือก็เช่นกันตอนแรกอ่านอย่างน้อย 2-3 หัวข้อในบทนั้นให้พอเข้าใจแล้วค่อยๆลองเพิ่มเวลาอ่านขึ้นไปเรื่อยๆเท่าที่เรารับไหวครับ8. คิดตามหรือทบทวนในส่วนที่เรารู้สึกว่าตรงนี้สำคัญเวลาผมอ่านหนังสือแล้วเจอหัวข้อที่โดนใจหรืออยากนำไปปรับใช้ ผมมักจะปิดหนังสือแล้วเอาหัวข้อนั้นมานั่งคิดนอนคิด ว่าเราจะสามารถเอาไอเดียนี้ไปปรับใช้ยังไงดี พอผมคิดได้หรือรู้สึกอยากอ่านต่อแล้วผมจะย้อนไปอ่านหัวข้อนั้นซ้ำแบบผ่านๆอีกครั้งนึงเป็นการทวนครับ9.เลือกแนวหนังสือที่เราสนใจหรืออยากลองเรียนรู้ตอนสมัยเรียน ตอนที่ผมอ่านหนังสือผมวอกแวกตลอดจนไม่มีสมาธิเลยครับ แต่เมื่อเจอหนังสือที่มีเนื้อหาที่ผมสนใจนั้นทำให้ผมสนใจและอยากอ่านต่อเรื่อยๆ ทำให้ผมสามารถอ่านหนังสืออย่างมีสมาธิเเละเพลินมากขึ้นครับ บทความนี้เกิดจากมีคนมาถามว่าถ้าอยากอ่านหนังสือได้นานๆควรทำยังไง แล้วตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมตอบเขาได้ไม่ครอบคลุมดีสักเท่าไหร่ ผมเลยมาเรียบเรียงเป็นบทความและเอามาแบ่งปันให้หลายๆคนได้อ่านกันโดยหวังว่าจะได้ประโยชน์กันนะครับ สวัสดีครับ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพถ่ายโดย Polina Zimmerman / pexelsภาพที่1 ภาพถ่ายโดย Rahul Shah / pexelsภาพที่2 ภาพถ่ายโดย Mental Health America (MHA) / pexelsภาพที่3ภาพถ่ายโดย Thought Catalog / pexelsภาพที่4 ภาพถ่ายโดย cottonbro studio / pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !