!คนเราเลือกเกิดไม่ได้! >>> !พรหมลิขิตให้ชีวิตเป็นอย่างนี้! ข้อความข้างต้นจะใช่ความจริง หรือจะเป็นเพียงแค่คำพูดปลอบประโลมจิตใจของคนเราในบางโอกาสของชีวิตกันแน่ แต่เชื่อได้ว่าเกือบทุกคนบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นชนชาติ หรือภาษาใด ต่างก็น่าจะมีโอกาสเคยได้ใช้ข้อความดังกล่าว เพื่อทำให้ชีวิตช่วงนั้น ๆ ผ่านไปได้ ในความเป็นจริง "คนเราเลือกเกิดไม่ได้", "ชีวิตของคนเราโดนขีดเส้นไว้โดยเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง" จริงหรือไม่ หรือเราแค่ไม่สามารถจำได้ว่าเราได้ทำอะไรมาก่อนหน้านี้ จึงส่งผลให้เรามาประสบพบเจอกับสิ่งต่าง ๆ อันเป็นที่พึงพอใจบ้าง ไม่เป็นไปอย่างใจที่ต้องการบ้าง อดีตคือสิ่งที่ล่วงไปแล้ว อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง คนเรามีสิทธิ์ และอำนาจเต็มที่ในการที่จะกำหนดปัจจุบันของเราให้เข้าใกล้กับความปรารถนาที่ตั้งไว้มากที่สุด ดังนั้นการใช้ชีวิตในแต่ละขณะตั้งแต่ที่เราลืมตาตื่นมาจนหลับตาลงอีกครั้ง เราสามารถเลือกเส้นทางเดินของชีวิตได้เองนับครั้งไม่ถ้วนในหนึ่งวัน เริ่มด้วยกิจวัตรประจำวัน แต่ละบุคคลก็ได้เลือกแล้วว่าจะดำรงตนแบบไหน แม้ว่าบางคนอาจมีข้อโต้แย้งว่า "ฉันไม่ได้เลือก แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ" ประหนึ่งว่าเป็นภาคบังคับที่ไม่สามารถเลือกทำได้หากมองย้อนกลับไปในรายละเอียด ทุก ๆ การกระทำต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกิจกรรมใด ๆ ของแต่ละบุคคลจะมีการเลือกที่จะแสดงออกหรือทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองอยู่เสมอ อาทิเช่น บางคนจะไม่อาบน้ำในช่วงเช้าเพราะร่างกายไม่ได้มีกิจกรรมอะไร และช่วยประหยัดการใช้น้ำ บางคนต้องอาบน้ำเช้าเย็น ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำมากเป็นพิเศษ เพราะเวลาช่วงนั้นเป็นการได้อยู่กับตัวเองมากที่สุด นั่นก็คือการลิขิตเส้นทางชีวิตในก้าวแรกของวันด้วยตัวของเราเอง เมื่อถึงเวลาต้องก้าวเท้าออกไปสู่สังคม "เราจะลิขิต (กำหนด) อะไรได้มันโดนบังคับด้วยกรอบ และกฎของสังคม" มันเป็นสิ่งจริงแท้ที่ว่าตัวเราไม่สามารถเปลี่ยนสภาวะภายนอกได้ทุกเรื่อง หากแต่ว่าตัวเรามีอำนาจเต็มที่ในการเลือกลิขิตให้ชีวิตของเราตอบสนองกันสิ่งที่มากระทบกับร่างกาย และจิตใจของเราอย่างไร โดยที่เราจะมีสองทางเลือกเป็นอย่างน้อยเสมอที่จะทำให้กายกับใจเรา สุข(น้อย) หรือ ทุกข์(เยอะ)แล้วการก้าวย่างไปด้วยใจที่เป็นสุข ทุกข์ให้น้อยจะทำได้อย่างไรหนอ เมื่อปัจจัยภายนอกอาจอยู่เหนือการควบคุมของตัวเรา ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยน และน่าจะควบคุมได้ดีที่สุดคือตัวเรา การปรับมุมมอง และพฤติกรรมเล็ก ๆ ของเราในทุก ๆ วันให้เกิด "ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน และประโยชน์เรา" น่าจะเป็นการเลือกใช้ชีวิตที่ทำให้ตัวเรา และคนรอบข้างเกิดความทุกข์น้อยที่สุด จนไปถึงการสร้างสุขร่วมกันได้ด้วยว่ามนุษย์เป็น "สัตว์สังคม" การกระทำที่คำนึงถึง "ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน และประโยชน์เรา" ย่อมนำผลที่ดีของการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากคนหนึ่งคนส่งผ่านออกไปยังบุคคลที่อยู่รายล้อมรอบ ๆ ตัว และขยายออกไปยังกลุ่มคนที่รู้จักในสังคม เพราะฉะนั้นการเลือกที่จะลิขิตให้ชีวิตของตัวเราเป็นจุดกำเนิดของความสุข ความเมตตา ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องรอ "พรหมบันดาล" เพราะเราได้สร้างเหตุที่ดี ณ ปัจจุบัน พร้อมทั้งได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดในอนาคตไว้เรียบร้อยแล้ว หากแม้ว่าผลที่ได้อาจจะมีความคลาดเคลื่อนไปบ้างจากเป้าประสงค์ แต่ผลนั้น ๆ ก็เกิดขึ้นจากการลิขิต และการก้าวย่างไปด้วยใจที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลของตัวเราเองไปยังผู้อื่นอย่างแท้จริง ขอขอบคุณรูปภาพภาพปกโดย LuidmilaKot จาก pixabay.comภาพที่ 1 โดย Freepik จาก freepik.comภาพที่ 2 โดย Creativeart จาก freepik.comภาพที่ 3 โดย BhaktiCreative จาก pixabay.comภาพที่ 4 โดย johnhain จาก pixabay.comภาพที่ 5 โดย Geralt จาก pixabay.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !