เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องวัด ๆมานำเสนออีกแล้วครับท่าน.....วัดที่ว่าอย่างนี้คือ “วัดสันป่าสักวรอุไรธรรมาราม” วัดนี้มีจุดเด่น คือ เป็นวัดที่เงียบสงบเน้นการปฏิบัติ ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ภายในวัดนะครับมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในการจัดกิจกรรมของวัดอย่างลงตัวไม่วุ่นวาย เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดแรกเมื่อเมื่อท่านจอดรถเรียบร้อยแล้วนะครับสิ่งที่ควรจะปฏิบัติที่ทางวัดได้ห้าม คือ ระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้มาอยู่วัดโดยกำหนดไว้ดังนี้ 1. เมื่อขับรถเข้ามาสู่บริเวณวัด ห้ามเปิดวิทยุฟังเพลงฟังข่าวสารต่าง ๆ ภายในวัดเพราะอาจเป็นการรบกวนพระภิกษุสามเณรหรือผู้ที่กำลังปฏิบัติธรรมหรือพระพระภิกษุสามเณรที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจ 2. ให้รักษาความสงบกรุณาอย่าพูดเสียงดังรบกวนพระภิกษุสามเณรหรือผู้ถือศีลปฏิบัติธรรมเพราะว่าวัดเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความต้องการที่จะปฏิบัติธรรมสามารถเข้ามาปฏิบัติธรรม และร่วมปฏิบัติศาสนกิจกับพระภิกษุสงฆ์ได้ เช่น ร่วมทำวัตรสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็น ได้ในศาลาใหญ่รองรับคนได้จำนวนเป็นหลักพันนะครับ 3. หากนำเด็กมาอย่าปล่อยให้เด็กส่งเสียงดังเป็นการรบกวนผู้อื่นโดยเฉพาะเวลาที่พระกำลังแสดงพระธรรมเทศนานะครับวันนี้ถือว่าเป็นการรบกวนทั้งพระผู้กำลังแสดงพระธรรมเทศนาเอง และรบกวนแก่พุทธศาสนิกชนหรือว่าผู้ที่มาทำบุญมาฟังเทศน์ฟังธรรม 4. ให้ทิ้งขยะในถังรองรับขยะและช่วยกันรักษาความสะอาดภายในวัดเป็นข้อห้ามทั้งเป็นการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 5. ห้ามดูหมอดูดวง ดูฤกษ์ยาม บอกเลข ใบหวยจำหน่ายวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังอันนี้แน่นอนอยู่แล้วครับเพราะว่าวัดแห่งนี้นะครับเป็นวัดที่พระภิกษุสงฆ์ภายในวัดนะครับท่านปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในหลักของพระธรรมวินัยในหลักของพระพุทธศาสนาตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าโดยเคร่งครัด ฉะนั้น ท่านจึงห้ามไม่ให้มีการดูหมอดูฤกษ์ดูยามดูดวงหรือไม่เล่นหวยหรือจำหน่ายวัตถุมงคล 6. ห้ามสูบบุหรี่จำหน่ายสินค้าทุกประเภทและบอกเรียบร้อยภายในวัดนะครับเพราะว่าวันนี้นะครับท่านมีความเคร่งครัดในเรื่องของการปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงนะครับ เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สิ่งที่ผู้เขียนสัมผัสได้เมื่อเข้ามายังวัดแห่งนี้ คือธรรมชาติ วันนี้ค่อนข้างสงบร่มเย็น มีดอกไม้ต้นไม้ขึ้นเองตามธรรมชาติ มีการประดับตกแต่ง ต้นไม้ดอกไม้บริเวณข้างศาลาใหญ่ได้อย่างสวยงามร่มรื่นภายในศาลาใหญ่น่าจะรองรับคนได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 โดยประมาณใช้ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ประกอบศาสนกิจหรือแม้กระทั่งงานศพก็สามารถใช้ศาลาแห่งนี้ได้ภายในจะมีพระประธานประดิษฐานอยู่สีหยกเขียวสวยงามมากซ้าย-ขวา น่าจะเป็นพระอัครสาวกแต่ถ้าจะให้ผู้เขียนเดาคิดว่าองค์กลางพระประธาน คือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เบื้องซ้าย-ขวาคือพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย-ฝ่ายขวา (พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ) เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ศาลาใหญ่จะมีตู้เก็บพระไตรปิฎก (เพิ่มเติมความรู้นิดหนึ่งครับ...พระไตรปิฏก แปลว่า ตระกร้าสามใบ แบ่งเป็นพระสุตตันตปิฏก พระวินัยปิฎก พระอภิธรรมปิฎก รวมมี 84,000 พระธรรมขันธ์) ท่านสนใจสามารถเปิดอ่านได้และมุมท้าย ๆ ศาลาจะมีหนังสือธรรมะ มากมายให้ผู้สนใจได้เปิดอ่าน ศึกษาเรียนรู้กันได้อีกด้วย เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) นักเที่ยวสายบุญท่านไหนมีความประสงค์ที่จะปฏิบัติธรรมท่านก็สามารถขออนุญาตเข้าปฏิบัติได้โดยท่านสามารถติดต่อพระผู้ที่ดูแลในการอำนวยความสะดวกภายในวัด และแจ้งความประสงค์ว่าจะเข้าปฏิบัติธรรมก็สามารถเข้ามาปฏิบัติได้ สำหรับการเดินทางมาวัดแห่งนี้ก็ไม่ยาก ท่านสามารถเดินทางมาจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางหลวงสาย 108 เชียงใหม่-จอมทอง ขับเลยอำเภอหางดงมาทางเข้าวัดจะอยู่ขวามือขับตรงเข้ามาก็จะพบกับจุดหมาย มาให้ได้นะครับที่นี้เป็นแหล่งเรียนรู้อีกหนึ่งแห่งที่ต้องห้าม (พลาด) เด็ดขาดครับ