'กรมการแพทย์' ยัน พร้อมดูแลผู้ป่วยโควิดทุกสายพันธุ์ ยาแพกซ์โลวิด-โมลนูพิราเวียร์ เข้าไทยต้นปี 65

7 ธันวาคม ที่โรงพยาบาล (รพ.) ราชวิถี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงระบบการรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ตอนนี้ได้มีการเตรียมยารักษาโควิด-19 ไว้ เช่น แพลกซ์โลวิดที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาและและปรับปรุงสัญญาในข้อตกลงร่วมกัน ขณะที่ยาโมลนูพิราเวียร์คาดยาจะได้ต้นปี 2565 รวมถึง โมโนโคนอลแอนตี้บอดี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองในหนู ซึ่งไทยได้มีการติดตามในยาดังกล่าวเช่นเดียวกัน

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการรักษา ตอนนี้กรมการแพทย์ได้การหารือทุกสัปดาห์ หากมีการระบาดโอไมครอนในประเทศ ระบบการรักษาที่ไทยมีไว้ เช่น การแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) การแยกกักในชุมชน (Community Isolation) และได้มีการเตรียมสายด่วน1330 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะถูกนำมาใช้เต็มรูปแบบเหมือนเดิม ยืนยันระบบการรักษาโควิดในรอบใหม่มีความพร้อม ในทุกด้าน

“จากการติดตามอาการโอไมครอนมีอาการไม่รุนแรงมากกว่าเดลต้า แต่ยังต้องติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัว กังวลกลุ่มเด็กที่อายุ 3-11 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หากพบมีกาาติดเชื้อ ตอนนี้ทางสถาบันเด็กสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีร่วมกับเครือข่ายได้มีการเตรียม เตียงในการรักษาเด็กโดยเฉพาะ สำหรับเด็กอาการหนัก มีประมาณ ร้อยกว่าเตียง นอกจากนี้ยังเตรียมการรักษาแบบ CI และโรงพยาบาลสนามต่างๆ รวมกว่า หมื่นเตียง” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า การรักษาหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน เบื้องต้นจะดูลักษณะอาการเป็นหลัก จะไม่ดูสายพันธุ์ หากอาการ ไม่หนักจะให้รักษาแบบ HI แต่หากมีอาการปานกลาง ถึงรุนแรง ให้เข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาลทันที