“สตาร์บัคส์” ขายกิจการบางส่วนในจีนเซ่นตลาดแข่งดุ

“สตาร์บัคส์” เครือข่ายร้านกาแฟรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตรียมขายกิจการส่วนใหญ่ในจีนให้กับ “โป๋หยู แคปิตอล” (ฺBoyu Capital) บริษัทด้านการลงทุนของจีน คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นหนึ่งในข้อตกลงถอนการลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุดในจีนของบริษัทในช่วงไม่กี่ปีมานี้

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว “สตาร์บัคส์” ยังจะดำเนินการในกิจการร่วมค้า (joint venture) กับ “โป๋หยู” ซึ่งจะถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 60 ในธุรกิจที่ดำเนินการในจีน ส่วน “สตาร์บัคส์” ถือหุ้นที่ร้อยละ 40 แต่ยังคงเป็นเจ้าของแบรนด์และถือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทใหม่

ส่วนแบ่งการตลาดของ “สตาร์บัคส์” ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากร้านกาแฟท้องถิ่น ซึ่งรวมถึง “ลักกิ้น” (Luckin) และ “คอตติ” (Cotti) ที่ขายสินค้าราคาถูกกว่า ขณะที่ “สตาร์บัคส์” พยายามรักษาความสามารถในการแข่งขันโดยไม่ปรับลดราคาลง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคามากขึ้น

ยูโร มอนิเตอร์ ระบุว่า “สตาร์บัคส์” มีส่วนสร้างตลาดกาแฟในจีนให้ได้รับความนิยมหลังจากเข้าไปทำธุรกิจในปี 2542 แต่ส่วนแบ่งตลาดในจีน ซึ่งมีจำนวนสาขามากกว่า 1 ใน 5 ของทั้งหมด กลับลดลงอย่างรวดเร็วจากร้อยละ 34 ในปี 2562 เหลือเพียงร้อยละ 14 ในปีที่แล้ว 

ปัจจุบัน Luckin มีสาขามากกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมากกว่า “สตาร์บัคส์” ที่มี 7,800 สาขา ซึ่งมุ่งเน้นการซื้อกลับบ้านและการเดลิเวอรี

“สตาร์บัคส์” ประเมินว่า รายได้จากการขายกิจการดังกล่าว รวมกับหุ้นที่ยังคงถือครองอยู่และใบอนุญาตในช่วง 10 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ 

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทขยับขึ้นร้อยละ 3 ในการซื้อขายนอกเวลาทำการของตลาดหุ้นนิวยอร์ก