"ญี่ปุ่น" จัดเต็ม! อัดฉีดเงิน 21.3 ล้านล้านเยน ปลุกเศรษฐกิจ

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ อนุมัติงบประมาณ 21.3 ล้านล้านเยน หรือราว 1.355 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสนับสนุนผู้บริโภคที่เผชิญภาวะเงินเฟ้อ

สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบนี้ครอบคลุม 3 เสาหลัก ได้แก่ การแก้ปัญหาสินค้าราคาสูงขึ้น การทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง และเสริมศักยภาพด้านการป้องกันประเทศและการทูต ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนี้มีขนาดใหญ่สุดนับจากวิกฤตโควิด

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเตรียมเพิ่มงบสนับสนุนให้ทางการท้องถิ่น รวมถึงเงินอุดหนุนสำหรับค่าไฟและค่าแก๊ส ซึ่งมาตรการสนับสนุนดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม โดยจะแจกจ่ายให้ครัวเรือนละ 7,000 เยน เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งจะมีการยกเว้นภาษีน้ำมันเบนซินด้วย

รัฐบาลญี่ปุ่นยังวางแผนจะจัดตั้งกองทุนเสริมสร้างศักยภาพด้านการต่อเรือระยะ 10 ปี และออกมาตรการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมให้สูงถึงร้อยละ 2 ของ GDP ภายในปีงบประมาณ 2570

ทั้งนี้ รัฐบาลจะจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมสำหรับดำเนินมาตรการต่าง ๆ และมีแผนจะผ่านร่างงบประมาณดังกล่าวภายในสิ้นปีโดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนตุลาคมอยู่ที่ร้อยละ 3 ขยับขึ้นจากร้อยละ 2.9 และอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ร้อยละ 2 ติดต่อกันนาน 43 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด อยู่ที่ร้อยละ 3 

ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังสะท้อนผ่านความเห็นของ “คาซูโอะ อุเอดะ” ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่กล่าวต่อรัฐสภาว่า จะระมัดระวังเรื่องการอ่อนค่าของเงินเยนที่อาจกระทบต่อเงินเฟ้อ ทำให้ต้นทุนการนำเข้าและราคาสินค้าแพงขึ้นในวงกว้าง