สวัสดีผู้อ่านทุกท่านด้วยจ้า ถ้าจำกันได้เมื่อปีที่แล้ว ได้มีข่าวของแพทย์หนุ่มอนาคตไกล อย่างคุณพี่หมอกฤตไท ที่ได้เผยแพร่เรื่องราวของตัวเองและได้ตั้งเพจที่มีชื่อว่า “สู้ดิวะ” และมีกดถูกใจและให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เพราะเรื่องราวที่เขาถ่ายทอดเผยแพร่นั้นทำให้ช่วยหลายต่อหลายคนได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ได้มากขึ้น ผู้เขียนก็คือหนึ่งคนที่รู้สึกว่าพี่หมอกฤตไทดูมีความนับถือและดูเก่งมากๆ เลย และทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตมากยิ่งขึ้น และมีหนังสือออกมาให้ได้อ่านกัน ซึ่งผู้เขียนก็ซื้อมาตอนตีพิมพ์ครั้งที่ 44 แล้ว มาดูว่าภายในหนังสือ ผู้เขียนจะได้อะไรกลับไปบ้าง มาดูมาอ่านกันได้เลยจ้าหนังสือ “สู้ดิวะ” เป็นหนังสือที่คุณหมอกฤตไท ได้เผยแพร่เรื่องราวของตัวเองว่าเจออะไรบ้างในชีวิตและอยากจะให้เป็นส่วนในการช่วยชีวืตให้ผู้คนมากมายที่กำลังทุกข์ใจ ท้อ อกหักหรือเหตุผลต่างๆ ที่รู้สึกว่าชีวิตตอนนี้ลำบาก ไม่ว่าจะช่วยผ่านตัวบุคคลหรือผ่านหนังสือ ถ้าช่วยได้เชื่อว่าพี่หมอกฤตไทคงจะดีใจมากแน่นอน และหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนจะได้อะไรกลับมาบ้าง มีทั้งในหนังสือและตัวผู้เขียนเอง ก็จะบอกคร่าวๆ นะ ในหนังสือมีรายละเอียดที่อยากให้ผู้อ่านลองหามาอ่านเอง มาดูกันเลยเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นมาในชีวิต ผ่านมาและผ่านไป ยอมรับมัน และก้าวเดินไปต่อ ที่จริงเพจสู้ดิวะก็เคยโพสต์เรื่องราวนี้มาแล้วด้วย ซึ่งพี่หมอบอกว่าเมื่อเรารู้ว่าจะเราจะอยู่ได้ไม่นาน ก็จะไม่นึกถึงเรื่องเล็กน้อยเลย เรื่องทรงผม เรื่องอกหัก เรื่องเล่นเกมก็แพ้ตลอด เรื่องที่ใบหน้าเป็นสิว Comment ด้านลบที่เสียกำลังใจ สิ่งเหล่านี้มันเล็กน้อย ต่อให้จะมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในชีวิต แต่ว่าก็ยังใช้ชีวิตต่อไปได้นี่ เรายังสามารถทำสิ่งดีๆ ทำอะไรดีๆ ได้อยู่ พี่หมอเองก็เป็นคนคิดแบบนี้เหมือนกันแต่สุดท้ายแล้วพี่หมอก็สรุปไปเลยว่าเรื่องเล็กน้อย ช่างมันไปเถอะดูแลสุขภาพให้ดี โรคภัยไข้เจ็บ เกิดขึ้นได้เสมอ พี่หมอได้แนะนำให้ทำประกันชีวิตเพื่อให้ง่ายต่อการรักษา สิ่งที่ผู้เขียนได้อ่านจากหนังสือก็ได้เตือนใจอย่างนึงว่า ดูแลสุขภาพดีอาจไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ป่วยเป็นโรคได้ อาจจะมีสิ่งที่เข้ามาในร่างกายและทำร้ายร่างกายเราได้ไม่รู้ตัว อย่างฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นอะไรก็ตาม ถ้าเข้ามาในร่างกายก็น่าเป็นห่วง หรือโควิดที่ปัจจุบันยังไม่ได้หายไปไหน อาจจะเป็นอย่างไม่รู้ตัวก็ได้ ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าดูแลตัวเองอย่างเข้มงวดมาก หลังจากการระบาดโควิดเข้ามา ผู้เขียนเวลามีออกไปข้างนอกก็มักพกสเปรย์แอลกอฮอล์เวลาออกไปข้างนอก ใส่หน้ากากอนามัย จับเล่นแมวหรืออะไรที่คิดว่ามันสกปรกก็ล้างมือตลอด จนคุณแม่ผู้เขียนมองว่าเป็นคนอนามัย รักสะอาดไปเลย แต่นั่นเป็นการดูแลตัวเองเพื่อชีวิตที่ดี แม้จะเป็นดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลเสียระยะยาวกับร่างกายก็ได้ เพราะงั้น ดูแลตัวเองดีๆ เพื่อได้อยู่กับคนรอบข้างนานๆ เน้อใช้ชีวิตต่อไป เพื่อส่งต่อพลังให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่ ผู้เขียนเองก็เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า “ทำไมเรายังต้องมีชีวิตอยู่?” จนได้มาอ่านหนังสือผู้เขียนก็ค้นพบว่าการที่เรามีชีวิตนั้น เพื่อส่งพลังบวกให้กับคนอื่น ผู้เขียนดีใจที่บางบทความที่ผู้เขียนทำได้ส่งพลังบวกให้กับผู้อ่าน ผู้อ่านจะได้รับอะไรกลับไปบ้าง จะเล็กน้อยหรือจะมาก ผู้เขียนก็มีความสุขแล้วที่อย่างน้อยบทความได้ช่วยคนอื่นได้ อย่างของพี่หมอก็ได้เล่าเรื่องตัวเองเพื่อให้คนที่มาเห็นได้คิดบวกและหันมารักตัวเองเพิ่มขึ้น ได้เติบโตต่อไปนั่นเองสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ดีที่สุดแล้ว มีความสุขในสิ่งที่มีอยู่ นี่เป็นสิ่งที่พี่หมอได้บอกในหนังสือไว้ ผู้เขียนว่าทุกคนเองก็มีสิ่งที่อยากได้แต่ว่ายังไม่พร้อมในการจะคว้าสิ่งนั้นไว้ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบ Happy ในสิ่งที่มีก็พอแล้ว แล้วสิ่งที่อยากคว้าไว้จะมาในสักวันเอง อยู่กับปัจจุบันดีที่สุดแล้ว พักผ่อน ออกไปเที่ยว ไปที่ต่างๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้สดชื่นไปเลยจ้าทุกคน คือ คนธรรมดา ในหนังสือมีการกล่าวว่าสังคมปัจจุบันกำลังกดดันเราให้กลายเป็นคนพิเศษ ถ้าทุกคนสุขภาพดี หน้าตาดี ดีไปหมด ทุกคนจะไม่วิเศษ นี่เป็นส่วนนึงของเนื้อหาคร่าวๆ ในหนังสือ ซึ่งทุกๆ คน เริ่มจากการเป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตปกติทั่วไป แม้แต่พี่หมอกฤตไท เขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนกัน มีตัวตนก็ต้องหายไปสักวันเหมือนกันทุกคน เราไม่ต้องเป็นคนพิเศษก็ได้ แค่มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตปกติทั่วไป ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ กินข้าวให้อิ่ม ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้วหนังสือจะบางหรือหนาไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บรรจุไว้ในนั้น เป็นข้อความที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดแล้ว และได้รู้ว่าอ่านหนังสือยังไงก็ต้องมีจบเล่ม ชีวิตของเราก็เช่นกัน เราก็เปรียบดั่งหนังสือที่มีหน้าแรกและหน้าสุดท้าย และหนังสือของเราสามารถให้อะไรกับผู้อ่านไม่มากก็น้อย เราไม่สามารถลบอดีตที่น่าอายหรืออดีตที่ไม่ดีด้วยปากกาลบคำผิด แต่ว่าทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ล้วนทำให้เราพัฒนาเป็นหนังสือฉบับที่ดีจนถึงท้ายที่สุดได้เสมอจ้าผู้เขียนรู้สึกดีใจที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้มากๆ แนะนำให้ผู้อ่าน ได้อ่านสักครั้งนึง เป็นหนังสือที่มีประโยชน์และให้พลังกับเราได้ดีมาก อ่านแล้วจะพบว่าเรื่องท้อแท้ เรื่องผิดหวังที่พบเจอมาในชีวิต มันจะผ่านไปเองจ้า และมันจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยทันที เรายังมีชีวิตและยังเดินหน้าได้ตลอด ไม่มีใครรู้เลยว่าเราหรือคนที่เรารักหรือใครสักคนจะมีชีวิตยาวนานหรือไม่ ขอให้ทุกๆ คนที่กำลังรู้สึกผิดหวังกับชีวิตได้รับพลังบวกทุกคนเน้อ บทความนี้ผู้เขียนข้อมูลตกหล่นหรือตรงไหนผิดพลาดก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยเน้อ ขอบคุณจ้าติดตามเพจสู้ดิวะได้ที่ Facebook : สู้ดิวะรูปภาพปกทำด้วย Canvaรูปภาพจากเพจ Facebook ของสู้ดิวะ : ภาพประกอบ 1 รูปภาพประกอบจาก Unsplash : ภาพประกอบ 2 ภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 4 ภาพประกอบ 5 ภาพประกอบ 6 ภาพประกอบ 7รูปภาพประกอบท้ายสุดผู้เขียนถ่ายเองจ้าช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !