คนไทยเราถูกสอนมาแต่อ้อนแต่ออก ว่าเวลารับประทานอาหารไม่ว่าจะมื้อใดก็ตาม ต้องนั่งรับประทานให้สุภาพเรียบร้อย ไม่พูดคุยหยอกล้อ ไม่เคี้ยวเสียงดัง ด้วยคนไทยเป็นชนชาติที่การรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ มารยาทในการกินดื่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผิดกับการรับประทานอาหารของชาวตะวันตก ซึ่งผู้เขียนเคยกล่าวไปในบทความเรื่อง วัฒนธรรมบนโต๊ะอาหารของคนสองโลก โดยชาวตะวันตกถือว่าการพูดคุยบนโต๊ะอาหารถือเป็นสิ่งจำเป็น อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนไม่รู้มาก่อน นั่นคือการรับประทานมื้อเช้าระหว่างไปทำงาน บางคนขับรถไปปากก็เคี้ยวอาหารไป บางคนวิ่งขึ้นรถโดยสารโดยในมือถือแฮมเบอร์เกอร์และแซนด์วิชอยู่ สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เรียกว่า เบรกฟาสต์ออนเดอะโก (Breakfast On The Go)ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ ภาพที่เราเห็นในหนังฝรั่ง ประเภทที่แม่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำแซนด์วิชให้สามีกับลูกได้รับประทานแต่เช้า ทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศมื้อเช้าแสนสุข เชื่อหรือไม่ว่าภาพเหล่านั้นเป็นกิจกรรมที่ชาวตะวันตกส่วนน้อยนิยมทำกัน แต่ชาวตะวันตกอีกเกินครึ่งไม่มีเวลามากพอมาอ้อยอิ่งบนโต๊ะอาหาร พวกเขาต่างเร่งรีบกับการไปทำงานให้ทัน ดังนั้นเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนจะตอกบัตรเข้างาน หลายคนต้องจูนร่างกายให้สามารถทำได้หลายอย่าง อาหารเช้าของชาวตะวันตกจึงเป็นอาหารจานด่วนที่ทำง่ายกินง่าย สามารถหยิบจับได้สะดวก การรับประทานมื้อเช้าระหว่างเดินทางไปทำงานนี่เอง จึงเป็นวัฒนธรรมการกินที่เรียกว่า เบรกฟาสต์ออนเดอะโกแต่เบรกฟาสต์ออนเดอะโกไม่ได้เพิ่งมีในยุคเร่งรีบที่เราต่างประสบกันอยู่ทุกวันนี้ แต่การกินมื้อเช้าระหว่างเดินทางมีมาตั้งแต่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม ช่วงศตวรรษที่ 18-19 โดยเริ่มจากคนงานที่ทำงานในเหมืองและโรงงานอุตสาหกรรมในยุโรป พวกเขาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมสัมภาระ เครื่องมือเครื่องใช้และใช้เวลาเดินทางไปยังเหมืองอีกหลายนาที จึงไม่มีเวลามากพอที่จะละเมียดละไมมื้อเช้าบนโต๊ะอาหารพร้อมหน้าลูกเมีย ผู้เป็นภรรยาจึงต้องเตรียมอาหารให้กับสามีพกติดตัวไปรับประทานระหว่างเดินทางไปยังเหมืองอุตสาหกรรม อาหารชนิดนั้นก็ไม่ใช่อะไร แต่เป็น แซนด์วิช (Sandwich) อาหารจานด่วนยอดฮิตของคนทั่วโลกนี่เอง ดังนั้นช่วงแรกจึงเรียกวัฒนธรรมการกินมื้อเช้าแบบนี้ว่า เบรกฟาสต์แซนด์วิช (Breakfast Sandwich)เบรกฟาสต์แซนด์วิชในยุโรป กลายเป็นวัฒนธรรมสากลของเมืองผู้ดีมาจนถึงทุกวันนี้ หากใครคุ้นเคยกับบรรยากาศของกรุงลอนดอนในตอนเช้า มักจะเห็นผู้คนเดินถือแก้วกาแฟและแซนด์วิชในมือระหว่างเดินทางไปทำงาน แซนด์วิชของชาวลอนดอนเรียกว่า แบ็พแซนด์วิช (Bap Sandwich) มีลักษณะเฉพาะคือการไม่ใช้ขนมปังแผ่น แต่ใช้ขนมที่เป็นม้วนสอดไส้ผักและเบคอน เพื่อสะดวกในการหยิบจับรับประทาน ในขณะที่แซนด์วิชทางฝั่งสหรัฐอเมริกา จะเรียกว่า เดนเวอร์แซนด์วิช (Denver Sandwich) โดยเอกลักษณ์คือแซนด์วิชที่มีไส้เป็นออมเล็ต (Omelette) นั่นเอง และตามบันทึกเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากแรงงานชาวจีนที่เป็นคนงานสร้างรางรถไฟในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เนื่องจากการสร้างรางรถไฟต้องเดินทางไปเรื่อย ๆ อาหารที่สามารถพกพาไปได้มีเพียงไม่กี่อย่าง นั่นคือขนมปัง ไข่ และเครื่องเทศ คนงานชาวจีนจึงรับประทานขนมปังห่อไข่ที่นำไปผัดกับเครื่องเทศเพื่อดับกลิ่นคาว และพัฒนาเป็นเดนเวอร์แซนด์วิชอย่างในปัจจุบันนี่จึงเป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารมื้อเช้าแบบฉบับคนตะวันตก ถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำให้เกิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดขึ้นหลายแบรนด์ ซึ่งอาหารจานด่วนก็ผลิตขึ้นมา เพื่อรองรับวัฒนธรรมเบรกฟาสต์ออนเดอะโกที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถสาธารณะในโลกตะวันตกอนุญาตให้พกพาอาหารขึ้นไปรับประทานได้ หรือการใช้มือข้างหนึ่งบังคับพวงมาลัย ส่วนอีกมือหนึ่งถือแซนด์วิชเพื่อสะดวกต่อการงับเข้าปากจะไม่ใช่เรื่องผิดกฎจราจร เมื่อย้อนมาดูบ้านเรายังถือว่าวัฒนธรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย แม้บางคนจะพกอาหารเช้าไปทำงาน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรับประทานบนรถโดยสารได้ ต้องไปแกะกินเมื่อถึงที่ทำงาน ธุรกิจอาหารเช้าจำพวกร้านโจ๊ก ร้านติ่มซำ ยังเติบโตได้ดีในบ้านเรา จึงเป็นความแตกต่างที่เราได้จากการเรียนรู้วัฒนธรรมของคนที่อยู่คนละซีกโลก ส่วนใครที่อยากจะลองกินมื้อเช้าแบบออนเดอะโกบ้าง โดยเฉพาะคนที่เดินเท้าไปทำงาน ก็โปรดระมัดระวังอย่าให้ไปรบกวนคนอื่น และกินช้า ๆ เพราะถ้าสำลักขึ้นมาคงจะแย่ไม่เบารูปภาพหน้าปก โดย Oliur : Unsplashภาพประกอบที่ 1 โดย Terry Jaskiw : Unsplashภาพประกอบที่ 2 โดย Eaters Collective : Unsplashภาพประกอบที่ 3 โดย Ola Mischenko : Unsplashภาพประกอบที่ 4 โดย Pixzolo Photography : Unsplash