กลางเดือนเมษายนแบบนี้ อุณหภูมิในหลายพื้นที่ของเอเชียก็พุ่งสูงขึ้นแบบไม่เกรงใจผิวหน้าเลยครับ โดยเฉพาะในประเทศไทยและบางเมืองของจีนที่แดดแรงจนเงาก็แทบจะละลายไปกับพื้นปูนร้อนๆ แต่อย่างที่คุณผู้อ่านน่าจะรู้กันดี อากาศร้อนแค่ไหนก็ไม่สามารถดับความคึกคักของเทศกาลสงกรานต์ได้เลย และโดยเฉพาะในวันที่ 15 เมษายนนี้ ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย หลายพื้นที่ยังคงมีการจัดกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สายน้ำ และรอยยิ้มครับ วันนี้ แต้มเอง ขอพามารีวิว 15 เมษายน สงกรานต์ไทย-จีน แก้อากาศร้อนสไตล์ชาวเอเชียกันดีกว่าครับ สงกรานต์ในไทยนั้นมีความหมายมากกว่าการสาดน้ำหรือใส่เสื้อลายดอก หลายคนอาจรู้จักในชื่อว่าวันปีใหม่ไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยความรัก ความเคารพ และการกลับไปหาคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพร การสรงน้ำพระในวัด หรือการกลับบ้านไปกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยในเทศกาลนี้ได้อย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกัน ผมอยากชวนคุณผู้อ่านมามองเลยไปนิดครับ เลยจากชายแดนไทยขึ้นไปทางเหนือ ที่นั่นมีประเทศจีน ที่ซึ่งแม้จะไม่ได้จัดงานสงกรานต์ทั่วประเทศเหมือนไทย แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน โดยเฉพาะในแถบมณฑลยูนนาน เช่น เมืองจิ่งหง (Jinghong) แห่งสิบสองปันนา ที่เป็นถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ หรือที่เรียกว่า ชนชาติไท (Dai ethnic group) พวกเขาก็มีเทศกาลที่คล้ายคลึงกับสงกรานต์ของไทยเลยครับ เทศกาลของชาวไทลื้อในจีนก็คือ เทศกาลสาดน้ำ (泼水节) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนเช่นกัน เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของกลุ่มชาติพันธุ์ และเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะออกมารดน้ำ ขอพร แลกเปลี่ยนความสุขกันอย่างครึกครื้น กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันของวัฒนธรรมจีนที่แอบมีความบ้านใกล้เรือนเคียงกับวัฒนธรรมไทยอยู่ไม่น้อยเลยครับ ผมเองเคยมีโอกาสไปชมงานเทศกาลสาดน้ำของชาวไทลื้อที่ยูนนานเมื่อสองสามปีก่อน ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขแบบที่คุ้นเคย น้ำถูกสาดจากขัน ตักจากโอ่ง หรือบางที่ก็มีรถฉีดน้ำขนาดเล็ก ๆ มาร่วมแจมให้สนุกมากขึ้น มีการใส่ชุดพื้นเมืองไทลื้อสวยงาม เดินขบวนอย่างภาคภูมิใจ มีการแสดงดนตรี เต้นรำ และกิจกรรมวัฒนธรรมอีกมากมาย ไม่ต่างจากที่เมืองเชียงใหม่หรือลำพูนบ้านเราเลยครับ สิ่งที่น่าสนใจคือ ความคล้ายคลึงกันของวัฒนธรรมการใช้น้ำในช่วงหน้าร้อนของทั้งไทยและจีนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการใช้ธรรมชาติเพื่อผูกใจผู้คน ท่ามกลางอากาศร้อนระอุที่ทะลุ 30 องศา น้ำเย็นสักขันหนึ่งไม่ใช่แค่ช่วยคลายร้อน แต่ยังทำให้หัวใจเย็นลงด้วย เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ในแบบที่ไม่ต้องใช้คำพูดมาก แค่รอยยิ้มและละอองน้ำก็พอ และในโลกที่เร่งรีบแบบทุกวันนี้ การได้หยุดพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไม่ว่าจะอยู่ไทยหรือจีน ไม่ว่าจะได้สาดน้ำหรือแค่ดูคนอื่นเล่น ก็ยังถือเป็นโอกาสที่ดีในการหันกลับมามองความเรียบง่ายของความสุข และการแบ่งปันบางอย่างให้กัน แม้จะเป็นเพียงแค่หยดน้ำในวันร้อนๆ สุดท้ายนี้ แม้แดดจะแรง น้ำจะเย็น และผิวจะไหม้ไปนิดหน่อย แต่ใจเราก็ยังชุ่มฉ่ำอยู่เสมอครับ เพราะวัฒนธรรมแบบเอเชียนั้น มักจะแฝงความอบอุ่นไว้ในความเรียบง่าย และน้ำใจ ก็เป็นสิ่งที่ไหลเวียนไปพร้อมๆ กับสายน้ำในช่วงเทศกาลนี้อย่างงดงามครับ นอกจากนี้ คุณผู้อ่านก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพหน้าปก / รูปภาพประกอบบทความ - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !