หนังสือการลงทุนเพื่อคุณผู้หญิงมาถึงแล้ว IT'S RISING TIME ได้เวลาตื่นแล้ว คุณผู้หญิง เป็นหนังสือให้ความรู้การเงินการลงทุนที่เน้นถึงกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะ จริงๆผู้ชายก็ศึกษาหาอ่านได้นะครับ เพียงแต่ว่าหนังสือจะโฟกัสที่ความกลัว ความกังวลที่เกิดขึ้นในแบบของผู้หญิงมากกว่า ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คือ คิม คิโยซากิ ภรรยาของโรเบิร์ต คิโยซากิ ต้นตำรับพ่อรวยสอนลูก ที่เคยมีประสบการณ์เรื่องของการลงทุน การพูดคุยกับคนที่มีทัศนคติที่ดีกับการลงทุน และคนที่กลัวมากเกินไปจนไม่อยากจะลงทุน บางคนก็เลือกที่จะพึ่งพาคู่ชีวิตที่มีฐานะการเงินดีแทนที่จะสร้างตัวด้วยความสามารถของตนเอง เนื้อหาภายในเล่ม ภาคที่ 1 ความฝัน ว่าด้วยเรื่องของการปรับความเข้าใจว่าเงินไม่ได้ทำให้เรารวย วิธีการกับความกล้าลงมือทำต่างหากที่ทำให้เรารวย เช่น ลงทุนอสังหาฯปล่อยเช่า ถ้าไม่รอบคอบ ปล่อยเช่าไปก็ไม่มีคนอยากจะเช่า ภาคที่ 2 ค้นคว้าหาความรู้ว่าด้วยเรื่องการรู้จักตั้งคำถามเกี่ยวกับคำแนะนำทางการเงินที่สื่อโทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆ เราต้องแยกแยะออกว่าคำแนะนำนั้นเหมาะสมกับเราหรือไม่ เพราะบางครั้งการลงทุนในสินทรัพย์บางอย่าง เขาแนะนำเราอย่างดิบดีก็เพื่อหวังค่าคอมมิชชันเท่านั้น ภาคที่ 3 ประยุกต์ใช้ความรู้ว่าด้วยเรื่องของทรัพย์สินเพื่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ตราสารทางการเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ทองคำ โลหะมีค่าต่างๆ) แนวคิดที่ได้ภายในเล่มจากมุมมองของผู้เขียน จำนวนความมั่งคั่ง หาได้จาก เงินที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ หารด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งมันแปลความหมายในรูปแบบของเวลา (เดือน) ที่เราอยู่รอดได้โดยที่เราหยุดทำงานไป สมมติว่าคำนวณมาได้เท่ากับ 24 เดือน ก็แปลว่าเราอยู่รอดได้โดยไม่ต้องง้อเงินเดือนนาน 24 เดือน ซึ่งมันสำคัญมากเวลาที่เราป่วย ไปทำงานไม่ได้ แล้วรายได้ก็จะหดหายไป จึงต้องรู้ว่าจำนวนความมั่งคั่งของเราเท่ากับกี่เดือน การบริหารความเสี่ยง (hedge) เป็นเหมือนการประกัน ถูกนำมาใช้เพื่อชดเชยผลขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น กรณีปล่อยบ้านให้เช่า ก็ต้องมีเงินสำรองเผื่อค่าซ่อมแซมบางอย่างที่ไม่คาดคิด รวมทั้งการสูญเสียรายได้ค่าเช่าจากการที่ผู้เช่าย้ายออก ทองคำก็นับเป็นแผนบริหารความเสี่ยงได้ในกรณีที่ค่าสกุลเงินมันอ่อนค่า ถึงตอนนั้นทองคำจะมีค่าเพิ่มขึ้น ตราสารสิทธิก็เป็นการบริหารความเสี่ยง เพราะถ้าเราซื้อสิทธิในการซื้อ (call option) เราคาดว่าหุ้นนั้นจะเพิ่มขึ้น ราคาของตราสารสิทธิเป็นเพียงส่วนเล็กๆของราคาหุ้นจริง เช่น หุ้นตัวหนึ่งอาจมีราคา 30 บาทต่อหุ้น แต่ตราสารสิทธิอาจมีราคาเพียง 1 บาท หากราคาหุ้นลดลง 10 บาท เราก็แค่เสียต้นทุนค่าตราสารสิทธิ 1 บาท แทนที่จะเสียเงิน 10 บาทต่อหุ้น ตราสารสิทธิจึงเป็นการบริหารความเสี่ยงจากผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น แต่หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น เราก็สามารถใช้สิทธิเพื่อซื้อหุ้นในราคาที่ตกลงกันแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าในตลาด 4 แบบทดสอบเพื่อค้นหาคำแนะนำที่ดี1.เลือกที่ปรึกษาอย่างชาญฉลาด.... เขาประสบความสำเร็จในเรื่องที่เรากำลังขอคำแนะนำหรือไม่ ?2.เขาทำในสิ่งที่สอนหรือไม่ ?3.พิจารณาแหล่งที่มาของคำแนะนำ เช่น รายการทีวีเกี่ยวกับการเงินมักสนับสนุนให้ลงทุนในกองทุนรวม หุ้น เพราะผู้ลงโฆษณาของรายการมักเป็นบริษัทกองทุนรวม ทำให้คำแนะนำดังกล่าวอคติจากผลประโยชน์ได้4.ที่ปรึกษา หรือ นักขาย บ่อยครั้งพวกเขาแนะนำเพราะหวังค่าคอมมิชชันจากการซื้อขายหุ้น ทีม เป็นสิ่งสำคัญ ทีมที่ปรึกษาของเราไม่ได้จำกัดแค่ผู้ให้ข้อมูลและคำแนะนำการลงทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักบัญชี นักกลยุทธ์ภาษี ทนายความ และนักวางแผนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น คิม คิโยซากิเองก็เจอที่ปรึกษาหวังผลประโยชน์มามาก กว่าจะได้มาเจอกับคนที่ดีมีน้ำใจ ฉลาด มากความสามารถ และพร้อมจะชนะไปด้วยกันทั้งทีม ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) หาได้จาก รายได้จากการลงทุนต่อปี (กระแสเงินสด) หารด้วย เงินสดที่ลงทุน ผลลัพธ์ที่ได้มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น ลงทุน 1000 บาท ในหุ้นที่จ่ายปันผลต่อปี 40 บาท ผลตอบแทนเท่ากับ 4% (40 บาท / 1000 บาท = 0.04 หรือ 4%) หรือ วางเงินดาวน์ 10,000 บาท เพื่อซื้ออสังหาฯให้เช่า 50,000 บาท ปลายปีจะมีกระแสเงินสดจำนวน 1,500 บาท ผลตอบแทนการลงทุนคือ 15% (1,500 บาท / 10,000 บาท = 0.15%) ปัจจัยที่ผู้ให้เงินกู้เพื่อการลงทุนอยากรู้ คือ1.โครงการ คือรายละเอียดของธุรกิจว่าอะไรที่ทำให้ธุรกิจนี้มีความได้เปรียบ และแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆ2.หุ้นส่วน หุ้นส่วนเป็นใคร ผลงานที่ผ่านมาของเขามีอะไรบ้าง จะได้รู้ประสบการณ์ของเขาว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน3.การจัดหาเงินทุน พวกเขาอยากเห็นตัวเลขที่เป็นจริงที่สุด ไม่ใช่ตัวเลขตกแต่งทางบัญชี จะได้เห็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในธุรกิจ เพราะทุกโครงการล้วนมีปัญหาอยู่แล้ว การแสร้งว่าโครงการของเราไม่มีข้อบกพร่องเลย ทำให้เราดูเป็นมือสมัครเล่นทันที สรุปสั้นๆ คือ เขาจะได้เงินทุนคืนเมื่อไหร่ และผลตอบแทนจากเงินลงทุนเป็นเท่าไร4.การบริหารจัดการ ผู้ให้เงินกู้อยากรู้ว่าใครเป็นผู้บริหารงานประจำวัน ทีมบริหารมีประสบการณ์แค่ไหน อะไรที่ทำให้เขามีบทบาทต่อความสำเร็จทางธุรกิจ เขาทำงานภายใต้แรงกดดันอย่างไร หากเราทำธุรกิจส่วนตัว หุ้นส่วนและทีมบริหารอาจเป็นคนกลุ่มเดียวกัน นั่นไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ขอเพียงมีความเชี่ยวชาญให้นักลงทุนเชื่อมั่นในตัวพวกเขา กฎสองข้อในการเลือกหุ้นส่วน1.อย่าเลือกหุ้นส่วนที่ต้องการเงิน เพราะเขาจะเห็นแก่เงินมากกว่าธุรกิจของเรา2.อย่าให้หุ้นแก่บุคคลผู้นำเสนอบริการที่เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในตลาด เพราะทำให้เขาหวังเงินมากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน ข้อดีของการเป็นเจ้าของธุรกิจ-ควบคุมรายรับ รายจ่าย และหนี้สินได้โดยสมบูรณ์-ใช้พลังทวีของคนอื่นในการสร้างธุรกิจ เช่น การระดมทุนจากนักลงทุนคนอื่นๆ-พลังทวีของเวลาคนอื่น เช่น การให้ลูกจ้างมาทำงานแทนที่เราจะทำเอง และมันสามารถว่าจ้างให้คนอื่นมาทำงานให้เราได้หลายคน หลายภาคส่วน ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีรายได้ไร้ขีดจำกัดขึ้นอยู่กับว่าจะบริหารเป็นมากน้อยแค่ไหน-ประโยชน์ทางภาษี รายจ่ายทางธุรกิจเกือบทั้งหมดสามารถนำมาหักภาษีได้-ชั่วโมงทำงานที่ยืดหยุ่น-ให้ความรู้กับคนในครอบครัวได้เพื่อสานต่อธุรกิจนี้สืบเนื่องไปในอนาคต ข้อเสียของการเป็นเจ้าของธุรกิจ-ยาก มันเริ่มต้นได้ยาก เพราะอัตราล้มเหลวสูง 9 ใน 10 ธุรกิจมักล้มเหลวใน 5 ปีแรก อีกทั้งยังใช้เวลานาน ไม่มีการรับประกันรายได้ที่แน่นอน ยิ่งถ้าเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ยิ่งท้าทายกับการบริหาร-ต้องเก่งเรื่องคน ต้องจัดการและบริหารคน ทั้งลูกจ้าง ลูกค้า ที่ปรึกษา นิสัยและพฤติกรรมประหลาดทั้งหลายทำให้เรียนรู้เรื่องคนไม่มีที่สิ้นสุด หากการบริหารเรื่องคนไม่ใช่จุดแข็ง ก็ทำให้เครียดเอาได้ นี่คือแนวคิดการเงินการลงทุนที่ได้ภายในเล่มที่คอยย้ำเตือนเราเสมอว่าชีวิตคนเราจำเป็นต้องมีรายได้หลายทาง เพื่อรับมือกับทุกวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เราก็ล้วนมีอิสรภาพทางการเงินกันได้ทั้งนั้น เหนือสิ่งอื่นใดก็คือคนเราต่างมีความกลัวในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงกันทั้งนั้น เพราะเห็นคนกล้าได้กล้าเสีย แต่ไม่ได้เข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างลึกซึ้งพอ เมื่อผิดพลาดจึงกลายเป็นหมดตัว และคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินก็มีน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ เราสามารถควบคุมชีวิตการเงินได้ อาจต้องหาความรู้มากหน่อย ใช้เวลาในการหาโอกาส มองโอกาสที่ว่าให้ออก ถึงจะมีตัวเราเพียงลำพังที่ตั้งใจจะลงทุน ไม่มีใครให้ปรึกษา ก็สามารถทำได้ แต่ถ้ามีคนให้คำปรึกษาที่เคยผ่านการลงทุนมาก่อน เราจะมีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้นอีกมาก เครดิตภาพภาพปก โดย benzoix จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย pch.vector จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย rawpixel.com จาก https://www.freepik.com/ บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้านรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนวัยรุ่น (Rich dad poor dad for teens)รีวิวหนังสือ WHY THE RICH ARE GETTING RICHER (ทำไมคนรวยยิ่งรวยขึ้น)รีวิวหนังสือ โรงเรียนสอนธุรกิจ สำหรับคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น (The Business School for people who like helping people) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !