18 ล้อเบรกแตก เสยกระบะไฟลุกไหม้ติดภายใน เจ็บสาหัส บนถนนภูเขา

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 13 สิงหาคม พ.ต.ท.โกสินทร์ บุญชู สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย(อ.กบินทร์บุรี) เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เบรคแตกเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งชนรถรถกระบะอย่างแรงจนไฟลุกไหม้ทั้ง 2 คัน คนขับติดภายในเหตุเกิด สถานที่เกิดเหตุ ถนนผ่านบนภูเขา ถนนสายสุวินทวงศ์(นครราชสีมา – นาดี) หรือ สาย 304 ช่วงบริเวณเขาทราย กม.128 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมกับประสานรถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์(อบต.) เพื่อดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้รถทั้ง 2 คันอยู่บนท้องถนน ปิดขวางการจราจร 1 ช่องทาง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องการจราจร ฝั่งขาลงจากภูเขาระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก เป็นช่วงทางโค้งลาดชัน มุ่งหน้ามา ทาง อ.นาดี พบรถยนต์กระบะนิสสันไม่ทราบสีหมายเลขทะเบียนชลบุรี ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันมีผู้อาศัยมาด้วย 3 คนบาดเจ็บเล็กน้อย

หน่วยกู้ภัยฯรีบนำส่งโรงพยาบาลนาดี ก่อนหน้านี้เพื่อรักษาอาการ และ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อหมายเลขทะเบียนลำปาง บรรทุกแป้งมันสำปะหลังมาเต็มคัน แป้งมันกระจายเกลื่อนเต็มถนน รถพลิกคว่ำตะแคง อยู่บนถนนไฟลุกไหม้บริเวณพ่วงล้อหลังเสียหาย

และคนขับรถพ่วงคันดังกล่าวถูกอัดก๊อปปี้ติดภายใน เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยเหลือออกมาจากซากรถโดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงสามารถนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ติดอยู่ภายในออกมาได้ และ รีบนำส่งโรงพยาบาลนาดีเร่งด่วน

ขณะเกิดเหตุรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสภาพการจราจรขณะเกิดเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรทั้งขาขึ้นและขาล่องทั้ง 4 ช่องการจราจรนานกว่าครึ่งชั่วโมง และ ปล่อยให้รถสัญจรไปมาได้ตามปกติ

นายสุทัศน์ แซ่โง้ว ผู้พบเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ขณะขับรถขาขึ้นเพื่อมุ่งหน้าโคราช หรือ จ.นครราชสีมา มาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถกระบะถูกรถพ่วงที่ลงจากเขาชนท้ายกระเด็นลอยมาอีกฝั่งไฟลุกไหม้ คนขับหนีออกมาจากรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ ขณะเดียวกันรถพ่วงบรรทุกแป้งมันมาเต็มคันรถพลิกคว่ำไฟไหม้ล้อหลัง ถุงแป้งมันเทกระจาดเต็มท้องถนน คาดว่ารถบรรทุกพ่วง 18 ล้อเบรกแตกช่วงขาลงจากภูเขาที่ลาดชันสูง ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม บนถนนสายดังกล่าวก่อนหน้าเป็น 2 ช่องทางการจราจร เป็นถนนสายเสี่ยงภัยมักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกปีจากรถบรรทุก หรือ รถโดยสารขนาดใหญ่เสียหลักเบรกแตกเป็นประจำทุกปี จน ต่อมา ครม.ได้มีมติขยายเพิ่มเป็น 4 ช่องการจราจร แต่ ยังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเช่นเดิม สาเหตุจากมีทางโค้งยาวไกล ทางลาดชันสูงเป็นระยะทางกว่า 16 กม.