บอกเลยว่านี้อาจเป็นสิ่งใหม่ของการแลกเปลี่ยนในโลกอนาคตเลยก็ว่าได้สำหรับ เงินตราที่จะเข้ามาในรูปแบบดิจิทัล ที่เราจะสามารถนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนได้ทั้งในโลกออนไลน์ รวมทั้งในชีวิตจริง ซึ่งในปัจจุบันนั้นรูปแบบเงินดิจิทัลที่ได้เกิดขึ้น และเป็นกระแสข่าวสุดฮิตอีกข่าวหนึ่งที่เรียกว่าเทียบเคียงมากับข่าวการติดเชื้อของไวรัส Covid-19 เลยทีเดียวล่ะค่ะ นั้นคือ ข่าวของค่าเงินในโลกอนาคต อย่าง "Libra" vs "Digital Yuan" นั้นเองค่ะ Libra หรือ ลิบรา คือ แพลทฟอร์มหนึ่งที่ได้ถูกพัฒนาโดย Libra Association ที่เป็นหนึ่งในองค์กรเอกชนอิสระ ซึ่งแพลทฟอร์มของลิบรานั้นจะเป็นการสร้างขึ้นเพื่อเชิญชวนให้ธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถเข้ามาสร้างค่าเงินในรูปแบบดิจิทัลได้จากแพลทฟอร์มนี้ โดยปัจจุบันนั้นได้มีสกุลเงินที่เข้าร่วมอยู่ 4 สกุลด้วยกันนั้นคือ EUR, SGD, GBP และ USD หรือจะเข้าใจง่าย ๆ ว่านี้คือค่าเงินดิจิทัลสกุลใหม่จาก Facebook เลยก็ว่าได้นะคะ มาในด้านของ Digital Yuan หรือก็คือ เงินหยวนในรูปแบบดิจิทัลนั้นเองค่ะ โดยจะมีธนาคารกลางของประเทศจีนเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการออกจำหน่ายได้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่างานนี้รัฐบาลจีนได้ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวนั้นเองค่ะ ซึ่งนาทีนี้ก็ขอบอกเลยว่าด้วยพฤติกรรมของการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในประเทศจีนในปัจจุบันนั้น ที่มีอัตราในการใช้เงินในรูปแบบของ Digital Yuan ในอัตราที่สูงมาก และได้มีการใช้งานสกุลเงินชนิดนี้มาสักพักใหญ่แล้วล่ะค่ะ อีกทั้งในปัจจุบันนั้นก็ได้มีการใช้ Digital Yuan ผ่านแอพพลิเคชั่น อย่าง Alipay และ WeChatPay นั้นเองค่ะ แถมในช่วงเวลาของสถานการณ์การแพรระบาดของไวรัส Covid-19 นั้น ส่งผลให้ประชาชนชาวจีนยินดี และมีความสบายใจในการใช้เงินในรูปแบบนี้มากกว่าการใช้เงินสดในรูปแบบของธนบัตร หรือเหรียญอีกด้วยค่ะ แถมธุรกิจร้านค้ารายย่อยต่าง ๆ ต่างก็ให้การตอบรับกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแม้จะแค่แวะซื้อของที่ตลาดทั่วไป ก็สามารถใช้จ่ายด้วยสกุลเงิน Digital Yuan ได้แล้วล่ะค่ะ อีกทั้งยังรวมไปถึงภาคธุรกิจการบริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการรถรับส่ง หรือแม้แต่การบริการอื่น ๆ เรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมทุกธุรกิจภายในประเทศเลยก็ว่าได้ และจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็เห็นจะเป็นแนวโน้มในการเติบโตของสกุลเงินในรูปแบบของ Digital Yuan นั้นมีแนวโน้มการการเติบโตในอัตราที่ง่าย และสูงมากเลยทีเดียวค่ะ บอกเลยว่านี้คือจุดเริ่มต้นของสังคม Cashless China เลยก็ว่าได้นะคะ แน่นอนว่าการพัฒนาค่าเงินออกมาในรูปแบบของดิจิทัลนั้น เรียกได้ว่านับเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังสามารถเป็นการลด และป้องกันความเสี่ยงในการหยิบจับเงินตราในรูปแบบของเหรียญ หรือธนบัตรที่อาจจะก่อให้เกิดเชื้อโรคที่สะสมได้อีกด้วยนะคะ โดยความแตกต่างที่เห็นอย่างได้ชัดนั้นก็คือ รูปแบบของการใช้งานของทั้ง "Libra" vs "Digital Yuan" ที่ลิบรานั้นจะเป็นเพียงแพลทฟอร์มหนึ่ง หรือเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเงินตราในรูปแบบของเงินดิจิทัล ในขณะที่ เงินหยวนดิจิทัลนั้นเป็นการพัฒนาเพื่อนำมาใช้งานได้ในทันที โดยไม่ต้องมีศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด แน่นอนว่าข้อดีของการใช้เเงินแบบดิจิทัลนั้น ก็ต้องเป็นเรื่องของความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากว่าเราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องควานหาธนบัตร หรือเหรียญในการชำระเงินให้ยุ่งยาก และเสียเวลาอีกต่อไป เพียงแค่จ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลก็สามารถทำให้การใช้ชีวิตง่ายมากยิ่งขึ้น แถมแน่นอนว่ามันช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่บนธนบัตรเหล่านั้นอีกด้วยนะคะ มีข้อดีแล้ว ก็อย่าลืมมองข้อเสียกันด้วยนะคะ เพราะระบบสกุลเงินดิจิทัลนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการเก็บเอาไว้ในอุปกรณือิเล็กทรอนิคส์อย่าง โทรศัพท์มือถือ หรือ ไอแพด ซึ่งนั้นก็เปรียบเสมือนเรามีเงินในธนาคารนั้นแหละค่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่ระบบมีปัญหา แน่นอนว่ามันจะสร้างความหัวเสียให้กับผู้ใช้งานได้พอสมควรเลยทีเดียวล่ะค่ะ อีกทั้งถ้าหากว่าลืมอุปกรณ์เหล่านั้นเอาไว้ที่ไหนแล้วล่ะก็ บอกเลยว่านอกจากโทรศัพท์มือถือจะหายไปแล้วนั้น ก็เหมือนกับว่าเงินของเราก็ได้หายไปพร้อม ๆ กันด้วยเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 นั้นถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเลือกใช้ Digital Currency หรือ สกุลเงินดิจิทัลเลยก็ว่าได้ เพราะนอกเหนือจากความปลอดภัยในการลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรคแล้วนั้น ยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินในยามนี้ที่ธุรกิจในรูปแบบออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากเลยก็ว่าได้นะคะ เชิงอรรถ Digital Yuan & Libra 2.0 อนาคต 'เงินดิจิทัล' หลังโควิด ภาพหน้าปก : แหล่งที่มา ,รูปภาพที่ 1 : แหล่งที่มา ,รูปภาพที่ 2 : แหล่งที่มา,รูปภาพที่ 3 : แหล่งที่มา