น้องๆหลายคนอาจจะกำลังส่งสัยว่า GAT PAT คืออะไร มีไว้ทำไม วันนี้พี่จะมาเล่าให้น้องๆฟังเอง GAT PAT นั้นเป็นการสอบเพื่อนำคะแนนยื่นศึกษาต่อที่ในระดับมหาลัยวิทยาลัย ซึ่งจะนำคะแนนไปคิดเฉลี่ยกับGPAX O-NET และอื่นๆควบคู่ในการตัดสินใจรับน้องๆเข้าศึกษาต่อนั่นเอง GAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป(General Aptitude Test) คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ มี 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหาส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย- Speaking and Conversation- Vocabulary- Structure and Writing- Reading Comprehensionขอบคุณที่มา:https://www.niets.or.th/th/catalog/view/571รูปภาพจาก: เด็กหญิงแสนเศร้า PAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ(Professional and Academic Aptitude Test)คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา คือPAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์PAT 3 คือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์PAT 4 คือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์PAT 5 คือ ความถนัดทางวิชาชีพครูPAT 6 คือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์PAT 7 คือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วยPAT 7.1 ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศสPAT 7.2 ความถนัดทางภาษาเยอรมันPAT 7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่นPAT 7.4 ความถนัดทางภาษาจีนPAT 7.5 ความถนัดทางภาษาอาหรับPAT 7.6 ความถนัดทางภาษาบาลีขอบคุณที่มา:https://www.niets.or.th/th/catalog/view/571รูปภาพจาก: เด็กหญิงแสนเศร้า คะแนนเฉลี่ยของ GAT PAT ปี 61-64วิชา คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยปี 2561 คะแนนเฉลี่ยปี 2562 คะแนนเฉลี่ยปี 2563 คะแนนเฉลี่ยปี 2564GAT 300.0 144.65 144.06 147.50 132.35 GAT (1) 150.0 98.40 90.50 92.49 79.99GAT (2) 150.0 46.32 53.63 55.09 52.43PAT 1 300.0 48.45 49.05 62.90 73.87PAT 2 300.0 72.12 78.10 79.37 93.42PAT3 300.0 92.54 90.81 98.21 91.51PAT 4 300.0 94.54 97.23 96.07 94.52PAT 5 300.0 128.44 129.80 122.27 126.04PAT 6 300.0 134.95 140.58 146.25 142.43PAT 7.1 300.0 96.12 96.91 105.71 106.75PAT 7.2 300.0 95.11 91.33 94.18 100.82PAT 7.3 300.0 100.93 107.05 109.74 106.51PAT 7.4 300.0 92.73 98.07 94.10 98.62PAT 7.5 300.0 82.84 79.62 108.31 104.93PAT 7.6 300.0 92.08 88.05 88.08 96.38PAT 7.7 300.0 103.27 101.10 107.39 113.72 ขอบคุณที่มา:https://www.admissionpremium.com/content/6142และ https://www.sanook.com/campus/1404372/รูปภาพจาก: เด็กหญิงแสนเศร้า สิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะเข้าสอบ GAT PATก่อนที่จะทำการเข้าสอบได้นั้น เราควรที่จะเตรียมตัวและศึกษาทำความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เวลา และอื่นๆอีกมากมายดังนี้ 1. วันเวลาในการสอบการที่เราจะเข้าสอบได้เราจำเป็นที่จะต้องรู้วันและเวลา ในการเข้าสอบเพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวได้ทัน-ควรไปถึงก่อนเวลาสอบ 30นาที หรือ1ชม.ก่อนสอบ เพราะการสอบนี้จะเป็นการRandomสนามสอบให้บางคนอาจจะโชคดีได้สอบที่โรงเรียนของตนเอง แต่บางคนอาจจะต้องไปสอบต่างโรงเรียน เพราะฉะนั้นเราจึงควรเผื่อเวลาในการเดินหาห้อง เช็คสิ่งของและเผื่อเวลาในการทำธุระส่วนตัว ในการเข้าสอบนั้น เมื่อเริ่มสอบแล้วเราจะไม่สามารถออกจากห้องสอบก่อนหมดเวลาได้ ถ้าหากเราออกจากห้องสอบก่อนเวลาเท่ากับว่าเราได้สละสิทธิ์สอบในวิชานั้นๆ-หากไปสายเกิน 30 นาที ผู้สอบจะถูกสละสิทธิ์ในการสอบวิชานั้นๆทันที 2. สนามสอบเราควรที่จะรู้สนามสอบก่อนวันสอบ เพราะสนามสอบที่คุณได้อาจจะไม่ใช่โรงเรียนที่คุณเรียนอยู่-ศึกษาสนามสอบก่อนที่จะถึงวันสอบ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาคารและห้องสอบ ของคุณอยู่ที่บริเวณไหนของที่นี่ 3. ตารางสอบตารางสอบนั้นจะไม่เหมือนกับตารางสอบในห้องเรียนของเรา 100% เพราะแต่ละวิชาอาจจะมีเวลาและสถานที่สอบไม่เหมือนกันเช่น -วันจันทร์สอบฟิสิกส์ เวลา 09:30 ที่โรงเรียน A ตึก3 ห้อง3 ชั้น3 เลขที่นั่งสอบ 33 -วันอังคารสอบชีวะ เวลา13:45 ที่โรงเรียน c ตึก 2 ห้อง 2 ชั้น 2 เลขที่นั่งสอบ 22 4. สิ่งที่ต้องเตรียมแน่นอนว่านักรบก็ต้องมีอาวุธประจำกาย ดังนี้- ปากกาน้ำเงิน (ใช้ในการเซ็นชื่อ)- ดินสอสีดำ 2B (สำหรับการฝนข้อสอบ) แนะนำให้พกไปสัก 2 แท่ง- กบเหลา- ยางลบ แนะนำว่าควรหายางลบดีๆที่สามารถลบดินสอบ 2B ได้สะอาดๆหน่อยเพื่อให้ไม่เกิดความผิดพลาดในการตรวจ- นาฬิกาสำหรับดูเวลา เพราะในห้องสอบอาจจะไม่มีนาฬิกาบอกเวลา (ควรเป็นนาฬิกาแบบเข็ม)ห้ามใช้นาฬิกาแบบ Smart Watch เด็ดขาดเพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณนำเข้ามาในห้องสอบ และกรรมการคุมสอบเห็นมัน คุณมีสิทธิ์ที่จะถูกปรับตกหรือถูกสละสิทธิ์ในการสอบทันที 5. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรยืนยันตัวตนก่อนเข้าสอบและก่อนเซ็นชื่อเข้าสอบ กรรมการสอบจะทำการเช็คบัตรปชช.ก่อนทุกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน บัตรปชช.หรือบัตรยืนยันตัวตน ควรเป็นบัตรออกโดยราชการ และจำเป็นต้องมีรูป*หากไม่มีบัตรแสดงตัวตนจะไม่มีสิทธิ์ในการสอบวิชานั้นๆ 6. การแต่งกายกำลังเรียนอยู่ ม.6 -แต่งกายด้วยชุดนักเรียน -มัดผมให้เรียบร้อย-สามารถย้อมสีผมได้แต่ไม่ควรฉูดฉาดเกินไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการสอบด้วยว่าจะให้เข้าหรือไม่ปล.พี่เคยย้อมผมไปสอบ อาจารย์ที่คุมสอบของพี่ใจดีมากมีการถามด้วยว่าย้อมสีอะไรทำไมสวยจัง กัดสีกี่รอบเนี่ย แต่พี่ขอแนะนำเลยว่าน้องๆควรที่จะอดใจรอสอบเสร็จก่อนจะดีที่สุดน้าา-ร้องเท้านักเรียนหรือรองเท้าสุภาพเด็กซิ่ว-แต่งกายด้วยชุดนักศึกษา หรือ ชุดสุภาพ-มัดรวบผมให้เรียบร้อย-ใส่รองเท้าสภาพ 7. ควรศึกษากฏเกณฑ์ให้ดีการศึกษากฏเกณฑ์เป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าหากน้องๆทำผิดกฏ นั่นอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่จนอาจจะทำให้น้องๆหมดสิทธิ์ในการสอบเลยทีเดียว 8. ตรวจทานข้อสอบให้ดีก่อนส่งหากคุณไม่ตรวจทานข้อสอบก่อนที่จะส่งอาจจะทำให้คุณพลาดคะแนนในข้อนั้นๆไปก็ได้ เพราะในการตรวจจะเป็นการตรวจโดยเครื่อง หากมีข้อผิดพลาดใดๆเครื่องจะไม่ทำการตรวจข้อสอบให้กับคุณ ประสบการณ์ของพี่คือตอนที่พี่ไปสอบปัญหาใหญ่ๆของพี่เลยคือ "ทำไม่ทันนน" ถ้าถามว่าทำไมพี่ทำไม่ทัน คำตอบคือพี่มั่วแต่ลังเลในคำตอบอยู่นั่นเองบอกเลยว่าพี่ผิดเต็มๆ เพราะว่าพี่เสียเวลาไปเยอะมากกับการลังเลของตัวเอง เพราะฉะนั้นพี่ขอแนะนำให้น้องๆจับเวลาตอนฝึกทำข้อสอบ เพื่อที่เวลาเราลงสนามจริงจะได้ไม่ตื่นสนามหรือลังเลแบบพี่ อยากเข้าคณะอะไร มหาลัยไหน อย่าลืมเช็คคะแนนและเกณฑ์การรับสมัครกันด้วยนะคะน้องๆขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบนะคะ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !