วันนี้นะคะจะมาเอาใจเพื่อนๆที่อยากเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือคู่ใจตัวใหม่ในช่วงปี 2022 แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกรุ่นไหนดีเลยอยากจะมาแนะนำเพื่อนๆเผื่อจะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆได้คิดตัดสินใจก่อนจะไปถอยโทรศัพท์มือถือคู่ใจเครื่องใหม่กัน ถึงแม้เข้ากลางปี 2022 มาแล้วแต่ก็ยังคงมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือจากแบรนด์ต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มราคาไม่เกิน 10,000 บาท ที่มีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบรนด์ที่น่าสนใจและในวันนี้เราเลยจะคัดมาให้เพื่อนๆแบบเน้นๆกันไปเลย 5 รุ่นเลยค่ะจะมีรุ่นไหนบ้างไปดู รีวิวโทรศัพท์มือถือน่าใช้(งบไม่เกินหมื่น) ปี 2022 กันเลย1. Samsung Galaxy A13 5Ghttps://www.facebook.com/SamsungThailand/photos/a.123175881063924/5295130407201753/มาเริ่มกันที่รุ่นแรกเลยกับ Samsung Galaxy A13 5G น้องเล็กซีรีส์ A ของทางซัมซุงนั่นเองมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5" (แนวทะแยง) สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ค่ะเพื่อให้เหมาะกับโทรศัพท์ในยุคปัจจุบันจุดเด่นของรุ่นนี้ที่เด่นที่สุดเอาใจสายถ่ายภาพมากๆจะเป็นเรื่องของกล้องหลังที่ให้มาด้วยกันถึง 3 สามตัวด้วยกันถ่ายใกล้ ๆ ได้ด้วย Macro Camera 2 ล้านพิกเซลเพื่อเผยรายละเอียดเล็กๆสร้างโฟกัสได้อย่างโดดเด่นด้วย Depth Camera กล้องหลักที่มีความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล และในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซลส่วนแบตเตอรี่นั้นถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งอีกอย่างของรุ่นนี้เลยที่ให้ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,800 มิลลิแอมป์เลยถือว่าให้เยอะมากๆและยังรองรับการชาร์จแบบฟาสชาร์จอีกด้วยแถมราคายังน่ารักเริ่มอยู่ที่ประมาณ 6,500 บาทอีกด้วยเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A13 5Gหน้าจอแสดงผลแบบ PLS TFT 24-bit,หน้าจอจะเป็นทรงหยดน้ำรูปตัววี,หน้าจอขนาดกว้าง 6.5 นิ้ว(แนวทะแยง),ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล(270 ppi),รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 90 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 90Hz)วัสดุตัวเครื่องจะเป็นกรอบแบบพลาสติกมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี Awesome Black(ดำ),Light Blue(ฟ้า)ใช้ซิมแบบ Nano-SIM ใช้ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน 3G,4G,5Gใช้ระบบปฏิบัติการ One UI based on Android 11,CPU : Mediatek : Dimensity 700 5G Octa Core,ความเร็ว : 2.2 GHz,GPU : Mali-G57 MC2,หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB,หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB , รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1 TBความจุแบตเตอรี่ 4,800 มิลลิแอมป์,รองรับชาร์จไว 66 วัตต์ Super Fast Charging,รองรับการชาร์จไร้สายกล้องตัวหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8,กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4,กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 และกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.0เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Fingerprint Under Display)ราคาเริ่มต้น : 6,500 บาท - 7,000 บาท 2. HUAWEI nova 9 SEhttps://www.facebook.com/HuaweimobileTH/photos/3152320071649976มาต่อกันในรุ่นที่ 2 กับ HUAWEI nova 9 SE ที่คลานกันตามออกมาหลังจากที่ HUAWEI nova 9 ออกมาได้ไม่นานจุดขายตัวนี้มาเผื่อสายถ่ายรูปอีกรุ่นนึงเลยที่อยากแนะนำที่มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวด้วยกันกับกล้องหลังที่มีความละเอียดสูงถึง108 ล้านพิกเซล Depth Camera ที่มาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวัดขนาดวัตถุไม่ว่าแสงน้อยหรือไม่มีแสงเลยก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีWide-angle lensesที่ช่วยการแสดงออกในความคิดสร้างสรรค์ที่กว้างขวางได้ หรือจะเป็น Macro Camera ที่สามารถเก็บภาพรายละเอียดของสิ่งของ ดอกไม้ แมลง หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และยังมีกล้องหน้าที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลให้เราเซลฟี่ได้แบบจุใจมีอีกอย่างที่หน้าสนใจสำหรับสายเล่นเกมส์คือ HUAWEI nova 9 SE มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยกราฟีนในสถาปัตยกรรมแบบมัลติเลเยอร์ที่สามารถตรวจจับและระบายความร้อนในพื้นที่ที่มีความร้อนสูงได้ การดีไซน์ของรุ่นนี้คือสวยมากสัมผัสได้ถึงความแวววาวของตัวเครื่องเลยขอบจอที่บางเป็นพิเศษเพียง 1.05 มม.และจอขนาด 6.78 นิ้ว (แนวทะแยง) แบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 4,000 มิลลิแอมป์คิดว่าน้อยไปนิดนึงแต่รุ่นนี้มาราคาเริ่มต้นที่ 7,500 บาทคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ HUAWEI nova 9 SEหน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี),เทคโนโลยีหน้าจอที่มีการเจาะรูกล้องหน้า (Punch-Hole Display),หน้าจอขนาดกว้าง 6.78 นิ้ว(แนวทะแยง),ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล(387 ppi),รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 90 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 90Hz)วัสดุตัวเครื่องจะเป็นกรอบแบบพลาสติกมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี Midnight Black(ดำ),Crystal Blue(ฟ้า)ใช้ซิมแบบ Nano-SIM ใช้ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน 3G,4G,ไม่รองรับการใช้งาน 5Gใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 12,CPU : Qualcomm : Snapdragon 680 Octa Core ,ความเร็ว : 2.0 GHz,GPU : Adreno 610,หน่วยความจำแรม (RAM)ขนาด 8GB,หน่วยความจำภายใน (ROM)ขนาด128GB ,รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ NM card สูงสุด 512 GBความจุแบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์,รองรับชาร์จไว 66 วัตต์ Super Fast Charging,ไม่รองรับการชาร์จไร้สายกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.9,กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4,กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 ,กล้อง Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2 และกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2เซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)ราคาเริ่มต้น : 7,500 บาท - 9,999 บาท 3.OPPO A96https://www.facebook.com/oppothai/photos/5040013212714264รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ประทับใจในราคาที่ไม่เกินหมื่นกับ OPPO A96 ที่มากับความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5,000 มิลลิแอมป์ถือว่าให้มาเยอะมากๆตอนกลางคืนนอนหลับให้เต็มอิ่มด้วย AI Night Charge Protection ที่จะช่วยป้องกันการชาร์จไฟเกินตอนกลางคืนดึงดูดใจบนจอแสดงผล NTSC ที่มีขอบเขตสีกว้างถึง 96% ให้คุณดูหนังและเล่นเกมกับสีที่สดสมจริง ดีไซน์รุ่นนี้คือสวยมากจริงๆสำหรับใครที่ชอบความวิบวับกลิตเตอร์ๆหน่อยๆ และยังจัดหน่วยความจำสูงขึ้นเป็น 2 เท่าเก็บได้เยอะจุใจกับ RAM 8GB และ ROM 256GB เติมเต็มความแรงอย่างทรงประสิทธิภาพ แต่รุ่นนี้ตัวกล้องจะมีกล้องหลังเพียง 2 กล้องเท่านั้นจะไม่เน้นการถ่ายภาพสักเท่าไหร่เน้นไปทางใช้งานมากกว่าราคาจะเริ่มอยู่ที่ 8,500 บาทคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ OPPO A96หน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี),เทคโนโลยีหน้าจอที่มีการเจาะรูกล้องหน้า (Punch-Hole Display),หน้าจอขนาดกว้าง 6.59 นิ้ว(แนวทะแยง),ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล(401 ppi),รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 180 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 180Hz)วัสดุตัวเครื่องจะเป็นกรอบแบบพลาสติกมีคุณสมบัติกันน้ำและระบบป้องกัน (Waterproof & Resistance to dust)กันน้ำได้ชั่วคราวและกันฝุ่นละอองมีมาตรฐาน IP5X , IPX4 มีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี Starry Black(ดำ),Pearl Pink(ชมพู)ใช้ซิมแบบ Nano-SIM ใช้ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน 3G,4G,ไม่รองรับการใช้งาน 5Gใช้ระบบปฏิบัติการ Color OS 11.1 based on Android 11,CPU : Qualcomm : Snapdragon 680 Octa Core,ความเร็ว : 2.4 GHz,GPU : Adreno 610,หน่วยความจำแรม (RAM)ขนาด 8GB,หน่วยความจำภายใน (ROM)ขนาด 256GB:UFS2.2 , รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1 TBความจุแบตเตอรี่ 5,000 มิลลิแอมป์,รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ Super Fast Charging,ไม่รองรับการชาร์จไร้สายกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8,กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 และกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.0เซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint) และ ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)ราคาเริ่มต้น : 8,500 บาท - 9,999 บาท 4.vivo Y30 5Ghttps://www.facebook.com/vivoThailand/photos/2111012225744729รุ่นต่อมาขอแนะนำ vivo Y30 5G ที่มีแบตเตอรี่ 5000 มิลลิแอมป์เพื่อการใช้งานที่ยาวนานอัดสเปคมาแน่นๆในราคาเริ่มต้นที่ 8000 บาท ดีไซน์เรียบง่ายเพียวบางเมื่อเทียบกับการมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ผิวระยิบระยับแวววาวรูปทรงเหลี่ยมมนดูเท่ห์และน่ารักในเครื่องเดียว มีUltra Game Mode 2.0 ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานและสามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้อีกด้วยในราคาเบาๆถึงแม้หน้าจอไม่ใช่ OLED แต่ก็มีสีสันที่สดสวยงามสามารถปรับโทนสีและอุณหภูมิของหน้าจอให้เหมาะกับความต้องการใช้งานได้ด้วยค่ะ คุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ vivo Y30 5Gหน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี),หน้าจอจะเป็นทรงหยดน้ำ (Waterdrop Display),หน้าจอขนาดกว้าง 6.51 นิ้ว(แนวทะแยง),ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล(269 ppi),รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 180 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 180Hz)วัสดุตัวเครื่องจะเป็นกรอบแบบพลาสติกมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี Starlight Black(ดำ),Rainbow Fantasy(ฟ้า)ใช้ซิมแบบ Nano-SIM ใช้ได้ 2 ซิม,Hybridsim (ใส่ได้ทั้งซิมการ์ดและเมมโมรี่) รองรับการใช้งาน 3G,4G,5Gใช้ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12.0 based on Android 12,CPU : Mediatek : Dimensity 700 Octa Core,GPU : Mail-G57 MC2,หน่วยความจำแรม (RAM)ขนาด 6GB,หน่วยความจำภายใน (ROM)ขนาด 128GB, รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1 TBความจุแบตเตอรี่ 5,000 มิลลิแอมป์,รองรับชาร์จไว 10 วัตต์ Fast Charging,ไม่รองรับการชาร์จไร้สายกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8,กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 และกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.0เซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือด้านข้าง (Fingerprint) และ ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)ราคาเริ่มต้น : 8,000 บาท - 8,699 บาท 5.realme 9i 5Ghttps://www.facebook.com/realmeTH/photos/3308562572715092และตัวสุดท้าย realme 9i 5G มาพร้อมดีไซน์ที่เปล่งประกายจะบอกว่ารุ่นนี้สีสวยมากๆได้แรงบันดาลใจมากจาก CD วินเทจรูปทรงจะเป็นสี่เหลี่ยมมนคล้ายๆกับโทรศัพท์รุ่นอื่นๆที่ตอนนี้นิยมนำทรงนี้มาใช้กัน และยังเป็นตัวแรกในตระกูล realme i ที่รองรับ 5G แบบซิมคู่เป็นรุ่นแรกในราคาไม่แรงเล่นเกมสบายประหยัดพลังงานกล้องหลัง 3 เลนส์มีโหมดถ่ายภาพ Street Photography 2.0 ที่รวมเอาฟิลเตอร์สุดฮิตอย่าง 90s Pop เพิ่มสีสันให้ดูภาพ Vintage ให้มีสีที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ และยังมีโหมดถ่ายภาพ Super Nightscape ไม่ว่าจะเป็นที่ที่มีแสงน้อยแค่ไหนก็ยังเก็บรายละเอียดของภาพได้ด้วยการเปิดรับแสงและปรับปรุงช่วงไดนามิกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเพื่อให้ภาพของเราคมชัดยิ่งขึ้นอีกด้วย ราคารุ่นเริ่มต้นที่ 9000 บาทค่ะคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ realme 9i 5Gหน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี),หน้าจอจะเป็นทรงหยดน้ำ (Waterdrop Display),หน้าจอขนาดกว้าง 6.6 นิ้ว(แนวทะแยง),ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล(400 ppi),รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 90 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 90Hz)วัสดุตัวเครื่องจะเป็นกรอบแบบพลาสติก,หน้าจอกระจก Panda Glass มีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี Rocking Black(ดำ),Metallica Gold(ทอง)ใช้ซิมแบบ Nano-SIM ใช้ได้ 2 ซิม รองรับการใช้งาน 3G,4G,5Gใช้ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 based on Android 12,CPU : Mediatek : Dimensity 810 Octa Core,ความเร็ว : 2.4 GHz,GPU : Mail-G57 MC2,หน่วยความจำแรม (RAM)ขนาด 6GB,หน่วยความจำภายใน (ROM)ขนาด 128GB, รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1 TBความจุแบตเตอรี่ 5,000 มิลลิแอมป์,รองรับชาร์จไว 18 วัตต์ Fast Charging,ไม่รองรับการชาร์จไร้สายกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8,กล้อง Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ,กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.0เซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint) ราคาเริ่มต้น : 9,000 บาท - 9,499 บาทเป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับโทรศัพท์มือถือ 5 รุ่นที่คัดมาให้เพื่อนๆได้ดูกันที่ราคาดีต่อใจงบไม่เกินหมื่นที่ได้แนะนำไปถูกใจเพื่อนๆบ้างมั้ยคะ มีทั้งสำหรับสายถ่ายภาพ สายเกมส์ สายใช้งานหนัก ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆทำให้มีโทรศัพท์มือถือเกินขึ้นมากมายหลายรูปแบบจนทำให้คนซื้อแบบเราแทบจะปวดหัวกับการเลือกซื้อไม่ถูกเลยทีเดียวหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ^^ ถ้ารอบหน้ามีโอกาสจะมารีวิวโทรศัพท์มือถือที่น่าใช้ในงบที่จำกัดให้เพื่อนๆได้ตัดสินใจกันอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ🙇♀️🙇♀️เครดิตขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook Samsungปก1.5 ภาพ1ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook Huawei Mobileปก1.4 ภาพ2ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook OPPOปก1.3 ภาพ3ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook vivo ปก1.2 ภาพ4ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook realmeปก1.1 ปก1.6 ภาพ5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !