ประเดิมเยือนเอเชีย กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ พบนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์
ประเดิมเยือนเอเชีย - วันที่ 23 ส.ค. เอพี รายงานว่า ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกาประกาศข้อตกลงใหม่หลายประการกับสิงคโปร์ มุ่งไปที่การต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การจัดการกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และบรรเทาปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นพร้อมกับการเยือนสิงคโปร์ของนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงของสหรัฐ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะต่อต้านอิทธิพลของจีนในภูมิภาคแห่งนี้
เกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐาน ต่างลงนามในบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานในสิงคโปร์ เพื่อขยายการแบ่งปันข้อมูลและการฝึกอบรมเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ส่วนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทั้งสองชาติกำลังเปิดตัวความร่วมมือภูมิอากาศระหว่างสหรัฐกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นความพยายามครั้งใหม่ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการขนส่ง และกระทรวงการคลังของสหรัฐ และหน่วยงานในสิงคโปร์ เพื่อพัฒนามาตรฐานภูมิอากาศใหม่ และร่วมมือกันในโครงการต่างๆ เพื่อขยายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาดและปรับปรุงความยั่งยืน
ทั้งสองชาติตกลงที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นในการติดตามสายพันธุ์ของโควิด-19 และมีส่วนร่วมในการวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโควิด-19 และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกำลังร่วมมือกับกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เพื่อสร้างความร่วมมือที่เน้นการเสริมสร้างการค้าในอุตสาหกรรมหลักจำนวนหนึ่ง
ทำเนียบขาวประกาศข้อตกลงเพิ่มเติมระหว่างสองประเทศเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการสำรวจอวกาศและการป้องกันประเทศด้วย การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในวันเดียวกับที่นางแฮร์ริสพบกับประธานาธิบดีสิงคโปร์ นางฮาลีมะฮ์ ยากบ และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นายลี เซียนลุง
การเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนางแฮร์ริสเริ่มจากสิงคโปร์และต่อด้วยเวียดนามในสัปดาห์นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายความร่วมมือกับทั้งสองประเทศเพื่อถ่วงต่ออิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้
นางแฮร์ริสเข้าร่วมในพิธีต้อนรับด้านนอกพระราชวังอิสตานาของประธานาธิบดีสิงคโปร์ จากนั้น วงโยธวาทิตบรรเลงเพลงชาติสหรัฐ หลังพิธีต้อนรับ นางแฮร์ริสเดินไปรอบลานบ้านพระราชวัง และเยี่ยมวงโยธวาทิต พร้อมนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ติดตาม
จากนั้น นายลี เซียนลุง โชว์กล้วยไม้สายพันธุ์หนึ่งให้นางแฮร์ริสดู ซึ่งได้รับการแต่งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแด่เธอด้วย ต่อมา นางแฮร์ริสเข้าร่วมในการพูดคุยสั้นๆ กับประธานาธิบดียากบ ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่การประชุมทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีลี
หลังการประชุม นางแฮร์ริสจะเข้าร่วมในการแถลงข่าวร่วม และเยือนฐานทัพเรือชางงี ซึ่งจะพูดคุยกับลูกเรืออเมริกันบนเรือรบประจัญบาน ยูเอสเอสทัลซา (USS Tulsa)
ส่วนวันอังคารที่ 23 ส.ค. นางแฮร์ริสจะกล่าวสุนทรพจน์โดยสรุปวิสัยทัศน์ของรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนสำหรับภูมิภาคนี้ และพบปะกับผู้นำธุรกิจเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่สองของนางแฮร์ริส หลังเยือนกัวเตมาลาและเม็กซิโกเมื่อเดือนมิถุนายน และจะเป็นครั้งแรกที่รองประธานาธิบดีสหรัฐเยือนเวียดนามด้วย
ทั้งนี้ สิงคโปร์เปรียบเหมือนสมอของกองทัพเรือสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพันธมิตรทางการค้าอย่างลึกซึ้งกับสหรัฐ แต่สิงคโปร์ยังพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจีน และความเป็นกลาง ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่เยือกเย็นยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเสื่อมถอยอย่างมากในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทั้งสองประเทศยังไม่เห็นด้วยกับประเด็นต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยี ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสิทธิมนุษยชน
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ต่างเคยเยือนต่างประเทศครั้งแรกที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และนายออสตินยังเยือนสิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนก.ค. และให้คำมั่นว่าสหรัฐจะสนับสนุนต่อต้านการรุกรานของปักกิ่งในทะเลจีนใต้
ส่วนนางแฮร์ริสในการเยือนสิงคโปร์และเวียดนาม ได้รับการคาดหวังว่าจะเน้นย้ำความจำเป็นสำหรับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ในการสนทนากับผู้นำทั้งสองประเทศ
นายอเล็กซานเดอร์ เฟลด์แมน ประธานและซีอีโอแห่งสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน (US-ASEAN Business Council) กล่าวว่า นางแฮร์ริสจะจำเป็นต้องระวังในการสนทนาของเหล่าผู้นำสิงคโปร์ที่จะไม่ให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป แต่เน้นความสัมพันธ์เชิงบวกและเป็นประโยชน์ของสหรัฐที่มีสิงคโปร์และเวียดนาม
"จุดที่นางแฮร์ริสสามารถตกหลุมพรางได้คือการพยายามเจาะลึกเรื่องนี้จนกลายเป็นการเยือนของสหรัฐเพื่อแข่งกับจีน นี่ควรเป็นการเยือนของสหรัฐกับมิตรภาพและพันธมิตรของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เฟลด์แมนกล่าว
นายเฟลด์แมนกล่าวด้วยว่า หากจีนกลายเป็นจุดสนใจหลัก นั่นจะทำให้มิตรภาพของสหรัฐเดินหน้ายากขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค ไม่เฉพาะในสิงคโปร์และเวียดนาม แต่มากกว่าสองประเทศนี้
ก่อนหน้านี้ นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์ว่า สิงคโปร์จะ “มีประโยชน์แต่าจะไม่ถูกใช้ประโยชน์” ในความสัมพันธ์กับทั้งสองประเทศ และนายกรัฐมนตรีลีเตือนสหรัฐก่อนหน้านี้ว่า อย่าใช้แนวทางเชิงรุกต่อจีน
อย่างไรก็ตาม ปักกิ่งเข้ามามีบทบาทในการเยือนของนางแฮร์ริสแล้ว โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนเผยแพร่บทบรรณาธิการเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ส.ค. เกี่ยวกับการเยือนของรองประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อกีดกันจีน
"การเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนตั้งเป้าที่จะ แสวงหาประเทศในภูมิภาคนี้เพื่อสร้างวงแหวนแห่งการกีดกัน (ring of containment) เพื่อต่อต้านจีน แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เต็มใจที่จะเลือกข้างระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา และ "แผนปรารถนา" ของอเมริกาจะต้องจบลงด้วยความล้มเหลว" ซินหัวระบุ
บทบรรณาธิการระบุด้วยว่า แนวทางของสหรัฐมีพื้นฐานมาจากความคิดสมัยสงครามเย็นที่ล้าสมัย และมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อปัญหาในความสัมพันธ์กับจีน สร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้า และพยายามสร้างวงแหวนแห่งการกีดกัน” บทบรรณาธิการกล่าว