รีเซต

วันนี้ 'อนุทิน' ควง 'พิพัฒน์' บินเชียงราย การันตีคุมโควิดอยู่-เที่ยวปลอดภัย

วันนี้ 'อนุทิน' ควง 'พิพัฒน์' บินเชียงราย การันตีคุมโควิดอยู่-เที่ยวปลอดภัย
มติชน
8 ธันวาคม 2563 ( 08:01 )
47
วันนี้ 'อนุทิน' ควง 'พิพัฒน์' บินเชียงราย การันตีคุมโควิดอยู่-เที่ยวปลอดภัย

วันที่ 8 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารทั้ง 2 กระทรวงลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าประเทศจากประเทศเมียนมา โดยจะเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.แม่สาย และด่านพรมแดน อ.แม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และตรวจเยี่ยมสถานกักตัวที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า เพื่อยืนยันการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างดี พร้อมสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวใน จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ สมช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อหารือถึงกรณีที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการลักลอบเข้าเมือง และการผ่อนคลายมาตรการการออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศ

 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงหลังการประชุมว่า สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยในปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกัน ส่วนการติดเชื้อภายในประเทศถือว่าน้อยมาก กรณีมีผู้ติดเชื้อจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วนใหญ่ลักลอบไปทำงานที่ท่าขี้เหล็กและลักลอบเข้ามาที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นจะเดินทางท่องเที่ยวและกลับบ้านที่ เชียงใหม่ พิจิตร ราชบุรี กทม. เป็นต้น และมีอาการป่วย เมื่อพบแล้วเราได้ดำเนินการสอบสวนโรคว่าไปพบใครบ้าง
นพ.โอภาสกล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามีผู้ติดเชื้อจากท่าขี้เหล็ก 32 ราย แบ่งเป็น เชียงราย 20 ราย เชียงใหม่ 5 ราย จังหวัดอื่นๆ จังหวัดละ 1 ราย จำนวนนี้มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ติดเชื้อภายในประเทศคือที่ จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยที่มาจากท่าขี้เหล็ก กินและเที่ยวด้วยกัน เราตรวจพบได้เร็วทำให้ไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม อีกรายเป็นผู้ป่วยที่ จ.สิงห์บุรี เดินทางเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยจากท่าขี้เหล็ก คาดว่าติดเชื้อที่สนามบิน เพราะนั่งติดกัน สวมหน้ากากอนามัยต่ำกว่าปาก

 

“เราวางมาตรการให้คนไทยที่อยู่ท่าขี้เหล็กกลับมาช่องทางถูกกฎหมาย เพื่อมาอยู่สถานกักกันตัวที่ จ.เชียงราย ซึ่งระยะหลังจะเข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้ในพื้นที่ จ.เชียงราย ควบคุมสถานการณ์ได้ ถ้าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จะอยู่ในสถานกักกันตัว ส่วน จ.เชียงใหม่ ไม่พบผู้ติดเชื้อจากท่าขี้เหล็กมาหลายวันแล้ว หรือแม้แต่ กทม. พิจิตร พะเยา สิงห์บุรี ราชบุรี ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม จึงถือว่ากรณีท่าขี้เหล็กทุกจังหวัดควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ขอเน้นย้ำประชาชนว่าการ์ดอย่าตก ส่วนกรณีที่มีข่าวทางโซเชียลมีเดียว่าห้ามไปจังหวัดต่างๆ นั้นไม่เป็นความจริง กรุณาอย่าแชร์ต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขอให้ติดตามข้อมูลจากส่วนราชการเท่านั้น” นพ.โอภาสกล่าว

 

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ย้ำว่าจังหวัดต่างๆ สามารถควบคุมโรคได้ดี ปลอดภัย สามารถเดินทางไปได้ ท่องเที่ยวได้ทั้งเชียงใหม่และเชียงราย และมั่นใจว่ากรณีนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้ และหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะจบก่อนเทศกาลปีใหม่ คนที่ไปเชียงใหม่ เชียงราย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยังเข้า-ออกจังหวัดได้ตามปกติ ไม่มีการปิดจังหวัด ไม่มีการปิดอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าเอกชนที่ไหนจะพนักงานตัวเองที่ไปเชียงใหม่ เชียงรายให้กักตัว 14 วัน ถือเป็นสิทธิ แต่ตนเห็นว่าเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น

 

ด้าน นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ได้ผ่อนคลายมาตรการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นระยะ เราได้ออกเอกสารอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ หรือ Certificate of Entry (COE) จนถึงเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม รวม 6,700 ราย ต่อมานายกฯสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เพิ่ม จึงนำเสนอที่ประชุมศปก.ศบค. กรณีผู้ที่เข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว เดิมอนุญาตให้เข้ามา 30 วันจาก 56 ประเทศ เสนอให้อยู่ในประเทศไทยได้ 45 วัน รวมเวลากักตัว 14 วันด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรามีความมั่นใจว่ามาตรการสาธารณสุขของไทยสามารถควบคุมโควิด-19 ได้

 

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันใน กทม.มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15,000 ห้อง เพียงพอที่จะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 1,000 คน แม้ว่าจะไม่ได้ทำวีซ่าเข้าประเทศ เราก็มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่กำหนดให้คนที่จะเดินทางเข้ามาต้องผ่านการตรวจโรคและเข้ามากักตัว พร้อมกับการขอเอกสาร COE ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีระบบขอเอกสารทางออนไลน์แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนต่างชาติขอเอกสารเข้าประเทศไทยได้ง่ายขึ้น คนที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยสามารถเตรียมตัวได้เลย ปัจจุบันมีต่างชาติเข้ามาประเทศไทยรวม 45,000 คน หวังว่าจากมาตรการนี้จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้เดือนละมากกว่า 20,000 คน