เมียนมาชี้แจงคณะทูตเรื่องทำลายศูนย์สแกมเมอร์

เว็บข่าว The Irrawaddy รายงานว่า ตาน ส่วย (Than Swe) รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชี้แจงต่อคณะทูตต่างชาติที่ประจำอยู่ในนครย่างกุ้ง เกี่ยวกับปฏิบัติการทำลายศูนย์สแกมเมอร์ในเมืองเมียวดี อ้างว่า นี่เป็นการพิสูจน์ว่า เมียนมาได้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ท่ามกลางความคลางแคลงสงสัยอย่างกว้างขวาง

ตาน ส่วนกล่าวต่อคณะทูตต่างชาติต่อไปว่า อาคาร 148 แห่งในเคเค พาร์คถูกทำลายไปแล้ว จากอาคารทั้งหมด 625 แห่งในเคเค พาร์ค และจะทำลายอาคารในศูนย์กลางสแกมเมอร์แห่งนี้เพิ่มขึ้นต่อไปอีก ส่วนร้อยละ 99.5 ของแรงงานที่ถูกจับกุมตามศูนย์สแกมต่าง ๆ บริเวณชายแดนเมียนมานั้น เข้าเมียนมาโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ เขาอ้างว่า ศูนย์สแกมเหล่านี้ ใช้อินเตอร์เน็ต ไฟฟ้าและเงินทุนจากประเทศอื่น ๆ ที่ข้ามพรมแดนเข้าไปในเมียนมา 

ตาน ส่วยกล่าวต่อไป โดยข่าวระบุว่า กล่าวโทษไทยเป็นนัย ๆ ว่า แต่การจะขุดรากถอนโคนอุตสาหกรรมสแกม จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือเต็มที่จากประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ และเรียกร้องคณะทูตช่วยสื่อสารต่อ ในสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์แท้จริง" ในเมียนมา ไปยังรัฐบาลประเทศต้นสังกัดของทูตประเทศต่างๆ ที่มาฟังคำชี้แจงครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ข่าวรายงานว่า ตาน ส่วยไม่ได้แตะเรื่องการที่เมียนมาถูกจารณ์อย่างกว้างขวางว่า การทำลายอาคารในศูนย์สแกมนั้น เป็นเพียงการสร้างภาพโชว์ และตัวจีนเทาที่เป็นหัวหน้าใหญ่ของศูนย์สแกมในเมียนมา ได้หลบหนีไปแล้ว และรัฐบาลทหารเมียนมาสามารถสร้างผลกำไรจากอุตสาหกรรมสแกมได้มากถึงหลายพันล้านดอลลาร์ โดยผ่านกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลทหารเมียนมา

ด้านสื่อรัฐบาลเมียนมาลงภาพต่าง ๆ ของอาคารหลายแห่งในเคเค พาร์ค ประกอบการทำข่าวการชี้แจงต่อคณะทูตดังกล่าว เพื่อช่วยส่งเสริมการแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศ

รัฐบาลทหารเมียนมาได้เริ่มทำลายอาคารต่าง ๆ ในศูนย์กลางสแกมเมอร์ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว (ต.ค.) แต่คนในพื้นที่ระบุว่า การเริ่มทำลายอาคารนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ "กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง" (BGF) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลทหารพม่า ได้ช่วยทำให้ปฏิบัติการสแกมย้ายไปที่อื่นก่อนแล้ว

ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลับแสดงว่า อาคารส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางสแกม ยังคงตั้งอยู่เหมือนเดิม

นักวิเคราะห์หลายคนคิดว่า การทำลายอาคารในศูนย์กลางสแกมเมอร์เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อลวงว่าเมียนมาได้ปราบปรามสแกมเมอร์

ขณะเดียวกัน สำนักควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำผู้บัญชาการระดับอาวุโส 4 คนของ "กองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตยผู้ใจบุญ" (DKBA)  ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่ามีบทบาทในปฏิบัติการสแกมเมอร์ในเมียนมา 

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตร "ซอ ชิต ตู" ผู้นำกะเหรี่ยง BGF และบุตรชายอีก 2 คน กล่าวหาเกี่ยวข้องอาชญากรรมข้ามชาติ

แม้ว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะอ้างว่าปราบปรามสแกมเมอร์ แต่ก็ไม่มีจัดการใด ๆ กับซอ ชิต ตู

ปฏิบัติการสแกมเมอร์หลอกลวงในเมืองเมียวดีได้เพิ่มขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2021 และยังขยายตัวเพิ่มอีก หลังการปราบปรามที่นำโดยจีนเมื่อปี 2024 ได้ขับไล่ศูนย์สแกมเมอร์ออกไปจากเขตโกก้างในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมา ที่ตั้งอยู่ติดชายแดนจีน