หยุดส่งก๊าซ-น้ำมันทันที! ปูตินบีบ ต.ต. เปิดบัญชีจ่ายค่าพลังงานเป็นรูเบิลวันนี้

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งที่กำหนดให้ประเทศผู้ซื้อพลังงานจากรัสเซียจะต้องเปิดบัญชีในธนาคารรัสเซีย เพื่อจ่ายเงินค่าพลังงานเป็นเงินสกุลรูเบิล โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ ไม่เช่นนั้นรัสเซียก็จะระงับการส่งพลังงานให้ทันที

“ไม่มีใครขายสิ่งใดให้เราฟรีๆ และเราก็จะไม่ทำการกุศลเช่นกันดังนั้นสัญญาที่มีอยู่จะยุติลง”ปูตินกล่าว

ปูตินกล่าวว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลในการซื้อขายมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างอำนาจอธิปไตยของรัสเซีย โดยรัสเซียจะยึดมั่นในพันธกรณีดังกล่าวในทุกความตกลง ซึ่งชาติตะวันตกต้องปฏิบัติตาม

ด้านเยอรมนีระบุว่าคำประกาศของปูตินคือการแบล็คเมล์ โดยนายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า เขายังไม่เห็นพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ที่ลงนามโดยปูตินที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง ความต้องการ หรือการพิจารณา ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร ที่กำหนดให้ต้องมีการจ่ายเงินเป็นสกุลรูเบิล สำหรับเราสิ่งสำคัญคือต้องมีการเคารพสัญญา

ขณะที่นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวในเวลาต่อมาว่า บริษัทเยอรมนีจะยังคงจ่ายค่าก๊าซให้กับรัสเซียโดยใช้เงินยูโรตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่นเดิม

ข้อเรียกร้องของปูตินถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นการเพิ่มมูลค่าของเงินรูเบิล ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจากชาติตะวันตกประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

ก่อนหน้านี้บริษัทและรัฐบาลตะวันตกออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่จะให้มีการจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิล โดยระบุว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างกันที่มีอยู่ ซึ่งกำหนดให้มีการจ่ายค่าพลังงานเป็นเงินสกุลยูโรหรือดอลลาร์สหรัฐ

นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน ชาติตะวันตกได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าจำนวนมากต่อรัสเซีย แต่สหภาพยุโรป (อียู) ยังไม่กำหนดมาตรการห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย แบบเดียวกับสหรัฐและแคนาดา

ปัจจุบันอียูต้องพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียเป็นหลัก โดยก๊าซ 40% และน้ำมัน 30% ที่ใช้ในอียูมาจากรัสเซีย จึงทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาพลังงานมาทดแทนหากการส่งพลังงานดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้น ขณะที่รัสเซียได้เงินราว 400 ล้านยูโรต่อวันจากการขายก๊าซ และยังไม่มีช่องทางที่จะปรับเปลี่ยนการกระจายพลังงานดังกล่าวไปยังตลาดอื่นเช่นกัน

ด้านนักวิจัยด้านน้ำมันและก๊าซระบุว่า ความพยายามของปูตินดังกล่าวเป็นการสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจกลับไปที่ยุโรป ขณะที่การบีบให้ยุโรปจ่ายค่าพลังงานให้รัสเซียด้วยเงินรูเบิล จะทำให้เงินรัสเซียแข็งค่าขึ้นด้วย หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตร