สื่อโสมแดงยังเงียบเรื่องสุขภาพ "ผู้นำคิม" หลายฝ่ายเริ่มวิเคราะห์เรื่องผู้นำคนใหม่

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 23 เมษายนว่า ขณะที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือยังไม่ออกมารายงานใดๆเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของนายคิม จอง อึน หลังซีเอ็นเอ็นออกมารายงานว่า นายคิม มีอาการวิกฤตหลังเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงเรื่องของผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ ที่ปกครองโดยคนในครอบครัวเดียวกันของตระกูล “คิม” มานานถึง 70 ปี

ทั้งนี้ ข่าวเรื่องสุขภาพไม่ดีของนายคิมมีขึ้นหลังจากนายคิมไม่ได้ร่วมในพิธีครบรอบวันคล้ายวันเกิด 105 ปีของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือผู้ล่วงลับ และปู่แท้ๆของนายคิม จอง อึน ในงานเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นงานสำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ และนายคิมไม่เคยพลาดร่วมงานดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อปลายปี 2011

โดยเมื่อวันที่ 22 เมษายน สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมได้ส่งสารไปยังประธานาธิบดีซีเรีย เพื่อขอบคุณที่ส่งสารแสดงความยินดีในเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของคิม อิล ซุง แต่ไม่มีการรายงานกิจกรรมอื่นๆของนายคิม จอง อึน แต่อย่างใด

นายคิม จอง อึน ถือเป็นผู้นำเกาหลีเหนือรุ่นที่ 3 ของตระกูลคิม ซึ่งตลอด 70 ปีของเกาหลีเหนือไม่เคยมีคนนอกตระกูลเข้ามาปกครองประเทศ เมื่อเกิดข่าวเรื่องสุขภาพของนายคิม ทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่ คิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ซึ่งน่าจะเป็นบุคคลที่สามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศได้ดีที่สุด หากเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชาย แต่ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญบางคนก็เชื่อว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นการสิ้นสุดการปกครองเกาหลีเหนือของตระกูลคิม

โดยนายชอง ซอง ชาง นักวิเคราะห์จากสถาบันเซจอง ในเกาหลีใต้ กล่าวว่า ในกลุ่มคนชั้นสูงที่มีอำนาจของเกาหลีเหนือ คิม โจ ยอง ถือว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะสืบทอดอำนาจ และมีโอกาสมากถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และว่า เกาหลีเหนือก็เหมือนกับราชวงศ์ ที่มีการสืบทอดการปกครองทางสายเลือด จึงไม่มีใครที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับการขึ้นสู่อำนานของคิม โย จอง

อย่างไรก็ตาม นายนัม ซุง วุก ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคเรีย ในเกาหลีใต้ กล่าวว่า ผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป อาจจะเป็นนายโช รยอง แฮ หัวหน้าฝ่ายพิธีการของเกาหลีเหนือ ที่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอันดับ 2 ของเกาหลีเหนือ ที่ไม่ใช่คนในตระกูลคิม จึงอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นได้

ส่วนอีกคนหนึ่งที่ถูกจับตามอง คือนายคิม พยอง อิล วัย 65 ปี พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อิล บิดาของนายคิม จอง อึน ที่เพิ่งเดินทางกลับไปอยู่เกาหลีเหนือเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากทำหน้าที่ทูตอยู่ในยุโรปหลายสิบปี โดยนายลีฟ-เอริค อีสลีย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเอวา ในกรุงโซล มองว่า อายุของนายคิม พยอง อิล อาจจะทำให้ดูเป็นบุคคลที่สามารถเป็นผู้นำประเทศได้เช่นกัน