จีนออกรายงาน 'การละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ' ประจำปี 2023
(แฟ้มภาพซินหัว : สภาพหมอกควันคลุมกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ วันที่ 29 มิ.ย. 2023)
ปักกิ่ง, 29 พ.ค. (ซินหัว) -- วันพุธ (29 พ.ค.) สำนักงานข้อมูลข่าวสารแห่งคณะรัฐมนตรีจีนออกรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ประจำปี 2023 ซึ่งตีแผ่สถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ลงของสหรัฐฯ ด้วยข้อเท็จจริงและตัวเลขสถิติ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการอันเป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ รวมถึงตอบสนองความคาดหวังของประชาชนชาวอเมริกันและประชาคมระหว่างประเทศ
รายงานระบุว่าสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ยังคงย่ำแย่ลงในปี 2023 และมีการแบ่งขั้วทางสิทธิมนุษยชนเพิ่มขึ้น โดยคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจปกครองถือครองบทบาทนำทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ขณะประชาชนคนธรรมดาส่วนใหญ่ถูกลิดรอนความสำคัญลงอย่างต่อเนื่อง โดยสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพวกเขาถูกมองข้าม
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองถูกลดทอนลงเหลือเพียงคำพูดในสหรัฐฯ ซึ่งเผชิญสารพัดปัญหาที่กำลังเลวร้ายยิ่งขึ้น ทั้งความรุนแรงจากปืน การต่อสู้แบบแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความโหดร้ายของตำรวจและระบบความรับผิดชอบของตำรวจอันไร้ประสิทธิภาพ การจำคุกจำนวนมากและการบังคับใช้แรงงาน การแบ่งขั้วทางการเมือง การโกงเลือกตั้ง และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลดลง
สหรัฐฯ ยังคงป่วย "โรคเหยียดเชื้อชาติเรื้อรัง" และชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาเผชิญการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติขั้นร้ายแรงและความไม่เท่าเทียมในด้านการบังคับใช้กฎหมายและการบริการทางการแพทย์ ส่วนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเผชิญการเลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้น สิทธิของชาวอเมริกันพื้นเมืองถูกละเมิดอย่างต่อเนื่อง และแนวคิดเหยียดเชื้อชาติลุกลามอย่างรุนแรงในสหรัฐฯ และกำลังไหลบ่าข้ามพรมแดน
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ชีวิตของคนยากจนเผชิญความทุกข์ยากทวีคูณ และสหรัฐฯ ปฏิเสธการให้สัตยาบันระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งถูกตีตราเป็น "ชีสสวัสดิการ" (welfare cheese) ในสหรัฐฯ และปรากฏการณ์ "ความยากจนในการทำงาน" (in-work poverty) แพร่กระจาย โดยช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกว้างขึ้นกว่าเดิม
สหรัฐฯ ไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ และยังคงเป็นรัฐสมาชิกสหประชาชาติ (UN) เพียงแห่งเดียวที่ไม่ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นคำเตือนว่ามีการละเมิดสิทธิสตรีและเด็กในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบรรดานักการเมืองตัดทิ้งสิทธิและสวัสดิการของผู้อพยพ
นอกจากนั้นสหรัฐฯ แสวงหาการครองอำนาจนำ ดำเนินนโยบายฝ่ายเดียวและการเมืองเชิงอำนาจ ตลอดจนสร้างวิกฤตมนุษยธรรมมาอย่างยาวนานบนเวทีระหว่างประเทศ
รายงานเสริมว่ามีอภิสิทธิ์ชนเพียงหยิบมือที่ได้สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ โดยสารพันปัญหาสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ คุกคามและขัดขวางการพัฒนาอันดีของสิทธิมนุษยชนทั่วโลกอย่างร้ายแรง
อนึ่ง รายงานฉบับนี้ประกอบด้วยคำนำ บทสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองกลายเป็นคำพูดคุยโว บทโรคเหยียดเชื้อชาติเรื้อรัง บทความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้น บทการละเมิดสิทธิสตรีและเด็กอย่างต่อเนื่อง บทการดิ้นรนของผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร และบทการครองอำนาจนำของอเมริกาสร้างวิกฤตมนุษยธรรม