ทำไมถึงต้องเลิกใช้ถุงพลาสติก ตอนนี้กระแสรักโลกโดยการเลิกใช้ถุงพลาสติกกำลังมาแรงทั่วโลกนะค่ะ เพราะถุงพลาสติกทำการย่อยสลายยากและใช้เวลานานมากและยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพลาสติกกันก่อนว่าพลาสติกคืออะไร? พลาสติก เป็นสิ่งที่คราะห์ขึ้นใช้แทนวัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีความเหนียว คงทน สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้และเป็นสิ่งที่ทำให้ความสะดวก สบาย ในการใช้งาน ซึ่งพลาสติกทำมาจาก น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ พลาสติกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.เทอร์โมพลาสติก หรือเรซิน เป็นพลาสติกที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก พลาสติกประเภทนี้โครงสร้างโมเลกุลเป็นโซ่ตรงยาว มีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์น้อยมาก จึงสามารถหลอมเหลว หรือเมื่อผ่านการอัดแรงมากจะไม่ทำลายโครงสร้างเดิม ตัวอย่าง พอลิเอทิลีน 2.เทอร์โมเซตติ้งพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีสมบัติพิเศษ คือ ทนทานต่อการเเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและทนปฏิกิริยาเคมีได้ดี เกิดคราบและรอยเปื้อนได้ยาก คงรูปหลังการผ่านความร้อนหรือแรงดันเพียงครั้งเดียว เมื่อเย็นลงจะทำให้แข็งมาก ทนความร้อนและความดัน ไม่อ่อนตัวและเปลี่ยนรูปร่างไม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงก็จะแตกและไหม้เป็นขี้เถ้าสีดำ ที่มาของพลาสติก พลาสติกเกิดขึ้นครั้งแรกราวปี 1933 ที่โรงงานเคมีในประเทศอังกฤษ และถูกนำมาใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ต่อมาเมื่อราวปี 1965 มีนักวิศวกรชาวสวีเดนอย่าง Sten Gustaf Thulin ได้มีการพัฒนาถุงพลาสติกให้กับบริษัท Celloplast ซึ่งเป็นบริษัทผู้บุกเบิกในด้านการแปรรูปพลาสติก ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาเพราะมีความทนทานไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย รู้ไหมถุงพลาสติกต้องใช้เวลาในการย่อยสลาย พลาสติก1 ใบใช้เวลาในการย่อยสลายทั้งหมด 450 ปี ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่าแต่ละปีมีขยะพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน 80 เปอร์เซ็นต์เป็นพลาสติกนอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือบอกว่า และในทุกปีมีคนมีคนใช้ถุงพลาสติกทั่วโลกมากว่า 10,000 ล้านใบต่อปี ซึ่งจำนวนถุงพลาสติกเหล่านั่นต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนานมากกว่า1,000 ปี https://bit.ly/2RfHvZ4 แต่ถ้ากำจัดโดยการนำไปฝังกลบก็จะทำให้พื้นดินบริเวณนั้นทำการเกษตรไม่ได้เลย แต่ถ้านำไปเผาไหม้แล้วก็จะเกิดเป็นก๊าซพิษ หรือถ้าเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีคุณสมบัติอมความร้อนทำให้ชั้นบรรยากาศโลกร้อนขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วคือไม่มีการเผาไหม้พลาสติกครั้งไหนที่สมบูรณ์เลย เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เกิดการเผาจะเกิดทั้งก๊าซพิษและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กระจายไปบนชั้นบรรยากาศ "นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน" ทำให้อากาศแปรปรวน หน้าฝนๆก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล หน้าแล้งก็แล้งมากกว่าเดิมหลายเท่า และนี่คือปัญหาที่เกิดจากถุงพลาสติก ถุงพลาสติกเกี่ยวอะไรกับภาวะโลกร้อน? สาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนร้อยละ 90 มาจากมนุษย์ เกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงทำให้ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากเกินความสามารถของโลกที่จะสะท้อนความร้อนจากพื้นโลกออกไปนอกโลกได้ทัน ผลก็คือเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งล้วนแต่เป็นผลกระทบระดับมหันตภัยทั้งสิ้น เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเนื่องจากน้ำแข็งโลกละลายสาเหตุก็เกิดจากอากาศที่ร้อนจนเกินไปน้ำแข็งจึงละลาย,สภาพอากาศแปรปรวน,ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง เช่น ฝนไม่ตกตามฤดูกาลเกิดความเสียหายกับด้านการเกษตร แล้วเกี่ยวอะไรกับถุงพลาสติกละ? มีความเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนระหว่างที่เราใช้ถุงพลาสติกก็เท่ากับทำให้โลกร้อน คือ ยิ่งมีการใช้ถุงพลาสติกมากเท่าไหร่ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกล่อยสู่ชั้นบรรยากาศโลกก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ถุงพลาสติกมีผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งถุงพลาสติก 1 ใบ ต้องใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี หากนำไปเผาก็จะทำให้เกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะทำให้โลกร้อน และการใช้ถุงผ้าจะช่วยลดการปนเปื้อนของสารก่อมะเร็ง และหากทุกคนหันมาใช้ถุงผ้าเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน จะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้มากกว่า 100 ล้านถุง/ปี "รู้อย่างนี้แล้วเราควรช่วยกัน ลด ละ เลิกการใช้ถุงพลาสติกแล้วหันมาใช้ถุงผ้ากันดีกว่าเพื่อโลกของเราจะได้น่าอยู่ขึ้น" https://bit.ly/2NszQWg https://bit.ly/2RibtMa