เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 ที่ Apple ได้เริ่มนำ LiDAR Sensor ใส่ไปใน iPad Pro 4th Generation และ iPhone 12 Pro lineup โดยที่เซนเซอร์ขนาดจิ๋วตัวนี้เองทำประโยชน์ให้กับเรามากมายโดยที่เราไม่รู้ตัว ทำให้การใช้งาน iPad iPhone ตลอดปีที่ผ่านมามีความคล่องแคล่ว และสะดวกยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะมาดูแอปพลิเคชั่นดี ๆ ที่ช่วยให้นักแต่งบ้านทุกคนต้องมีกัน แอปนี้มีชื่อว่า Planner 5D มีทั้งในระบบ iOS, Android, Windows, MacOS และ VisionOS แอปนี้เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการวางแผนตกแต่งห้องของตนเองด้วยขนาดของห้องจริง ๆ เริ่มต้น ถ้าเกิดว่าเราต้องการวางแผนออกแบบห้องน้ำด้วยตนเอง ให้ทำตามนี้ได้เลย! 1. เข้าแอป Planner 5D และสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น Google, Apple หรือ email 2. ในหน้า Home ให้เลือก New Project และ Scan Room 3. เมื่อสแกนเสร็จเรียบร้อย ให้กด Done จะได้เป็นโมเดลของห้องขึ้นมา สามารถเลือกได้ว่าจะดูแบบ 2D หรือ 3D จะได้โมเดลจำลองห้องของเราออกมาที่เป๊ะเวอร์ จากนี้เราเลือกตกแต่งได้ตามใจชอบ ตาม furniture ที่มีให้ เมื่อตกแต่งเสร็จแล้วสามารถแชร์ไฟล์นี้ไปยัง Planner 5D เครื่องอื่นได้ เช่น iPad, Mac, โทรศัพท์ Android เป็นต้น นอกจากนี้ถ้าต้องการทำงานแบบ multiplatform สามารถเข้า account เดียวกันด้วยเครื่องอื่น สามารถเปิดมา edit ได้ตามสะดวกเลย ตัวอย่างเช่นเข้าใน iPad Pro นอกจากนี้ ถ้าต้องการ export เป็น CAD File หรือปลดล็อคเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมสามารถทำได้ แต่ว่าต้องเป็นสมาชิก Pro หรือ Premium ซึ่งมี free trial ให้ลอง ถ้าถูกใจและคิดว่าจะใช้งานได้คุ้มก็สมัครได้เลย สรุปง่าย ๆ เลย ข้อดีของแอป Planner5D การใช้งานโดยทั่วไป สำหรับการวางแปลนต่าง ๆ ไม่ต้องเสียเงิน ได้ขนาดห้องที่เป๊ะมาก ๆ แทบจะ 1:1 เมนูใช้ได้ง่าย ไม่ต้องมี Learning Curve เยอะ สามารถดูได้ทั้ง 2 และ 3 มิติ หรือในโหมด AR ข้อเสียของแอป Planner5D ถ้าต้องการเฟอร์นิเจอร์แบบพิเศษกว่าปกติต้องเสียเงินสมัคร Premium หรือ Pro ถ้าซื้อมาใช้ครั้งเดียวราคาถือว่าไม่คุ้ม เครื่องที่ใช้ Planner5D ออกแบบในโหมด 3 มิติต้องแรงอยู่พอสมควรจากการประมวลผลแบบ Real-time Export เป็นไฟล์ CAD เสียเงินซึ่งสำหรับบางคนจำเป็นมาก เครดิตภาพ จากโทรศัพท์ของผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !