'นิวยอร์ก' เล็งยุติภาวะฉุกเฉินคุมโควิด-19 หลังสถานการณ์ดีขึ้น
นิวยอร์ก, 24 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (23 มิ.ย.) แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ ประกาศว่ารัฐนิวยอร์กจะยุติการบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินด้านการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วทั้งรัฐในวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.) หลังจากการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่มีความคืบหน้า
รัฐนิวยอร์กประกาศบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2020 โดยมีการแก้ไขหรือระงับกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับหลายประการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การตรวจโรค รักษา ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และกักตัวในกรณีฉุกเฉิน"นิวยอร์กเปลี่ยนจากหนึ่งในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อเลวร้ายที่สุดเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำที่สุดในประเทศ และทั้งหมดเกิดจากความพยายามของชาวนิวยอร์กที่สามัคคีและทำในสิ่งที่ควรทำตลอดช่วงการระบาดใหญ่ครั้งนี้" คัวโมกล่าวทั้งนี้ รัฐนิวยอร์กมีอัตราบวกผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกอยู่ที่ร้อยละ 0.34 เมื่อนับถึงวันพุธ (23 มิ.ย.) โดยมีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 474 ราย และผู้ป่วยรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนัก 104 รายขณะเดียวกันยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของรัฐนิวยอร์กรวมอยู่ที่ 42,942 ราย ขณะร้อยละ 71.2 ของผู้อยู่อาศัยได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแล้วอย่างไรก็ดี แนวปฏิบัติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ตลอดจนผู้โดยสารทุกคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะและในสถานที่บางแห่ง อาทิ สถานพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ทัณฑสถาน และสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน