สวัสดีครับนี่เป็นบทความอันที่สองของผมแล้วนะครับ ผมเลยอยากให้ทุกคนได้รับความรู้บ้างจากผม ผมจะมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ ในการเข้ามหาลัยของผมเอง การเข้ามหาลัยนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับช่วงชีวิตวัยรุ่นหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างมากคือ ถ้าพลาดไปแล้วเราจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับว่ากับสิ่งที่เราควรรู้มีอะไรบ้าง Let's go ....... 🚗🚓🚕🛺🚀🛸 1. คุณอยากจะเรียนอะไร เวลาที่คุณทำอะไรคุณนั้นล้วนแล้วแต่ต้องมีเป้าหมาย การทำพอร์ตเข้ามหาลัยก็เช่นกัน ถ้าคุณชอบช่วยเหลือคน ชอบเรียนวิชาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คุณต้องอยากเรียน พยาบาล แน่นอนสรุป ถ้าคุณชอบอะไรเรียนอันนั้น อย่าเรียนตามเพื่อน คุณลองคิดดูว่าชอบวิชาอะไร แต่ละวิชาสาขา นั้นมีความถนัดไม่เหมือนกัน เลือกที่ถูกและตรงใจของเรา และ ที่สำคัญเราต้องปรึกษากับพ่อและแม่ของเรา เพราะ ท่านเป็นคนที่เคยผ่านมาก่อน มากกว่านั้นเขาต้องจ่ายค่าเทอมให้เราด้วยสรุป เวลาเรียนอะไรต้องเลือกให้ถูกใจ และ ปรึกษากับพ่อแม่ให้ดี พอเราเลือกได้ว่าอยากเรียนอะไรแล้ว เราต้องเลือกสาขาวิชาที่เราชอบด้วย สมมุติว่าเราเรียนครู เราก็ต้องเลือกอีกว่าเราอยากจะสอนวิชาอะไร แต่ละอาชีพมีความถนัดไม่เหมือนกันเลือกดีๆ 2. รับสมัครพอร์ตฟอลิโอมั้ย ไม่ใช่ว่าทุกคณะทุกมหาลัยจะรับรอบพอร์ตฟอลิโอทั้งหมดเราต้องเข้าไปค้นหาข้อมูลให้ดี เขาแค่บอกว่า เป็นรอบที่รับสมัครมากที่สุดและเป็นรอบที่มีโอกาศติดมากที่สุดไม่ใช่ทุกคณะที่เปิดรับสมัครรอบพอร์ต การรับสมัครรอบพอร์ตฟอลิโอ แต่ละที่มีโครงการไม่เหมือนกัน เราต้องเข้าไปอ่านในเว็บของมหาลัยให้ดี ไปดูกันเลย !!1. โครงการเด็กดีมีที่เรียน : เป็นโครงการของคนที่มีเกรดเฉลี่ยสะสม 5 ภาค เรียนสูงๆ หรือ เป็นนักกิจกรรม ถึงจะมีสิทธิ์ติด2. โครงการเด็กพื้นที่ : เป็นโครงการรับคนสมัครเฉพาะพื้นที่ เช่น ถ้าเขารับสมัครในเขตพื้นที่ภาคเหนือ แล้วเราเรียนโรงเรียนในเขตภาคเหนือ เราก็สามารถสมัครได้โดยที่โครงการนี้จะไม่มีคู่แข่งจากภาคอื่นมาสมัครแข่งกับเรา3. โครงการเด็กความสามารถพิเศษ : เป็นโครงการสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมมีพวกเกียรติบัตรเยอะๆ4. โครงการเด็ก สอวน. : เป็นโครงการสำหรับเด็กเทพห้องต้น ที่เข้าไปแข่งระดับประเทศ หรือ เเข่งโครงการอื่นๆในเคลือ สอวน. 3.เกณฑ์รับพอร์ตฟอลิโออ นอกจากจะมีโครงการแล้วการรับสมัครแล้วยังมีเกณฑ์การรับด้วย มาดูกันเลย !!1.พอร์ตไม่เกิน 10 หน้า : โดยทั่วไป ทุกที่จะมีมาตรฐานการทำพอร์ตไม่เกิน 10 หน้า และตามเคยเราต้องไปอ่านรายละเอียดอีกที2.เกรด Gpax 5 เทอม ไม่ต่ำกว่า 2.50 : โดยปกติทั่วไปมหาลัยจะรับคนที่มีเกรดดีอยู่แล้ว แต่บางโครงการก็มีรับเกรดน้อย ส่วนใหญ่จะมากกว่า 2.50 3.ต้องอยู่ภายในภาคตะวันออก : สมมุติว่าเราอยู่ภาคตะวันออกเขาก็จะรับคนที่เรียนอยู่ภาคนั้น4.มีความสามารถพิเศษ : โดยปกติทั่วไป มหาลัยจะรับคนที่มีเกียรติบัตรเยอะๆ หรือ ได้รับรางวัล เยอะๆ 4. เขารับโครงการนี้กี่คน เวลาเราจะเลือกมหาลัยในการเข้ามันต้องดูหลายอย่าง แต่ที่แน่ๆต้องมีความน่าจะป็นที่สูงมากพอที่เราจะติดที่นั่นจริงๆ1.ผลงานของเรา : มีเกียรติบัตรที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เราเลือก2.เกรดของเรา : ต้องดูและวิเคราะห์ได้ว่าเกรดของเราสามารถไปแข่งกับคนอื่นๆที่มาสมัครที่เดียวกับเราได้ใหม3.กราฟคนติดในปีก่อน : เราต้องวิเคราะห์ว่าในปีก่อน ประมาณช่วง 5 ปี ที่แล้วมีคนติดคณะนี้สาขานี้และมหาลัยที่นี่กี่คน เราต้องเลือกว่ามหาลัยไหน สาขาไหน ที่เราชอบมีความน่าจะเป็นที่จะติดที่สุดเราต้องเลือก 5.ผลงานที่เกี่ยวข้อง บางทีเราอาจจะเป็นเด็กกิจกรรม มีเกียรติบัตรหลายใบ เราจึงต้องเลือกเกียรติบัตรที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของเราให้ดีและครบถ้วนเช่น สมมุติว่า ถ้าเราเรียน ครูวิทย์เราก็ต้อง เอาเกียรติบัตรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มา ยกตัวอย่าง แข่งโครงงาน แข่งตอบคำถามวิทย์ และ ผลการเรียนดี 6.เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปเราจะใส่เนื้อหาเข้าไปในพอร์ตที่ไม่จำเป็นบ้าง จำเป็นบ้าง แล้วแต่พื้นที่ ของหน้านั้นๆ แต่หลักๆคือต้องใส่พวกนี้เข้าไปชื่ออะไร บ้านอยู่ไหนครอบครัวทำอาชีพอะไรเก่งอะไรเกรดเท่าไหร่การติดต่อ 7.บทสัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเรา เวลาเราสมัครเข้ามหาลัยแล้วมาได้ครึ่งทางเราจะต้องถูกติดต่อไปสัมภาษณ์โดยเราจำเป็นต้องเตรียมเนื้อหาไปอย่างรอบคอบ สมมุติว่า เราเรียน ครู เอกภาษาอังกฤษ เขาต้องให้เราแนะนำตัวเองอย่างคร่าวๆแน่นอน ซึ่งเราจำเป็นต้องทำได้ ไม่ใช่ไปตอบเขาว่าคุณพูดว่าอะไรนะ ,ผมตอบไม่ได้ 8.เรียงความ เราต้องเขียนเรียงความเกี่ยวกับความรู้สึกของเราที่อยากจะเข้ามหาลัยนั้นคณะนั้นให้มากที่สุดอย่างน้อย 1 หน้ากระดาษ A4 สมมุติว่าเราอยากเข้าคณะศึกษาศาสตร์เราก็ต้องเขียนเรียงความของเราให้เข้าเกี่ยวกับแนวครูให้มากที่สุดเช่น อยากเป็นครูเพราะมันเป็นความฝัน ใจรักอาชีพ รักเด็ก ชอบพูดคุย และ ชอบในการสอน 9.ความสามารถพิเศษ สมมุติว่าเราอยู่เอกภาษาไทย เราต้องได้ถูกให้แสดงความสามารถพิเศษแน่นอนอาจจะเป็น แต่งกลอน ขับเสภา หรือ ท่องอาขยาน 10.เน้นย้ำแหล่งติดต่อ เราต้องพยายามใส่แหล่งติดต่อให้ชัดเจน สามารถมองเห็นได้ง่าย เพราะถ้าเรามีสิทธิ์ติดสัมภาษณ์เขาจะแจ้งเรามาทาง ช่องทางการติดต่อ นี่ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ " 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนทำ พอร์ตฟอลิโอ [ ไม่รู้ห้ามทำ ] " หวังว่าทุกคนคงสนุกกับการอ่าน content ของผมในครั้งนี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ Content ต่อไปครับ ฺBye.....ถ้าอยากติดต่อเพิ่มเติมได้ที่Youtube : AofArrive FaceBook : Aof Patachonlasit#เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียนภาพทั้งหมดที่ใช้ตกแต่งมาจากเว็บ https://www.freepik.com/