"บ้านปู เพาเวอร์" โชว์ผลประกอบการ มุ่งขยายพอร์ตเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนของโรงไฟฟ้า เพื่อให้สามารถเดินเครื่องจ่ายไฟได้ตามเป้าหมาย พร้อมเดินตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เน้นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่ใกล้จะแล้วเสร็จ (Brownfield) ที่มีการใช้เทคโนโลยี High Efficiency, Low Emissions (HELE) เพื่อส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป ในประเทศที่กลุ่มบ้านปูดำเนินธุรกิจอยู่ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาการลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) รวมไปถึงการหาพันธมิตรร่วมลงทุนซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของโรงไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในครึ่งแรกของปีนี้
นอกจากนี้ บ้านปู เพาเวอร์ ยังมุ่งสร้างการเติบโตในพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานผ่านบ้านปู เน็กซ์ เตรียมเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 100 เมกะวัตต์ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายขยายกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนถึง 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยมีการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของกิจการ (Due Diligence) อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งบ้านปู เพาเวอร์ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอยู่แล้ว รวมถึงมองหาโอกาสเพิ่มเติมในประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง และเป็นแหล่งดำเนินธุรกิจพลังงานของกลุ่มบ้านปู เช่น สหรัฐอเมริกาอีกด้วย ทั้งหมดนี้ เพื่อให้บ้านปู เพาเวอร์สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง”
“การที่หุ้น BPP ได้เข้าคำนวนในดัชนี MSCI GLOBAL SMALL CAP INDEX เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity: Net D/E) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ 0.07 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตและความพร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ในอนาคต บ้านปู เพาเวอร์จะยกระดับและพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าด้วยจุดยืนการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน(We ARE Power for the Sustainable World) พร้อมผลักดันการเติบโตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานไฟฟ้าในบริบทที่หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เพิ่มมูลค่าและสร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างมั่นคง” นายกิรณ กล่าว
นายกริณกล่าวว่า สำหรับปี 2563 บ้านปู เพาเวอร์มีผลกำไรสุทธิ จำนวน 3,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อนหน้า และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 5,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จาก ปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2563 งวดวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลทั้งปีที่ร้อยละ 54 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน สะท้อนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน