นักซิ่งยังอาย!หนุ่มส่งพัสดุรถชนล้อหลุด ขับหนีกู้ภัยจนไฟแลบ ไม่ยอมจอดให้ช่วย

เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 13 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณสี่แยกไฟแดงเมืองประจวบ หลักกิโลเมตรที่ 309 จึงนำรถกู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ออกให้ความช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงพบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน 2ฒษ5298 กรุงเทพมหานคร ลักษณะต่อเป็นตู้บรรทุกสินค้า จอดอยู่บริเวณข้างทาง โดยมีรถยนต์อีกคันช่วยพ่วงแบตเตอรี่สตาร์ทรถยนต์ ซึ่งสภาพรถได้รับความเสียหายกันชนด้านหน้าแตกหลุกออก ไม่มีล้อหน้าขวา แตกเหลือแต่ดิสเบรกและดุมล้อ เหลือเพียง 3 ล้อ

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงกำลังจะลงไปเข้าให้ความช่วยเหลือ ปรากฏว่าคนขับซิ่งรถหลบหนีกู้ภัยออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ยอมให้กู้ภัยช่วยเหลือ โดยขับรถที่เหลือเพียง 3 ล้อหนีกู้ภัยครูดไปตามพื้นถนนจนเกิดประกายไฟแลบไปตลอดทาง หลบหนีไปทางถนนสายรองเพชรเกษม-หนองเสือ แล้ววิ่งผ่านหน้าวัดหนองเสือเข้าถนนทางหลวงชนบท วกไปวนมาไม่ยอมจอดกว่า 20 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงขับรถติดตามไปตลอดทาง เพื่อจะให้ความช่วยเหลือ แต่รถคันดังกล่าวก็ไม่ยอมจอด จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวน้อย ช่วยสกัดหยุดรถ จนรถคันดังกล่าวเข้าไปหยุดจอดอยู่ที่บริเวณหน้า สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทประจวบคีรีขันธ์ ที่ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 500 เมตร

ในขณะที่รถหยุดจอดเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าผู้ขับขี่อาจจะมีอาวุธ จึงเตรียมพร้อมอยู่ห่างๆ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้น ซึ่งพบว่าคนขับมีสภาพร่างกายแขนทั้ง 2 ข้างไม่สมประกอบ ให้การกับเจ้าหน้าที่พูดจาวกไปวนมาลักษณะคล้ายอาการคนเมา

โดยให้การว่า ตนเป็นพนักงานรับจ้างของบริษัทรับส่ง พัสดุอยู่คลอง 9 จังหวัดสมุทรปราการ ไปส่งสินค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ และกำลังจะกลับบ้านที่คลอง 9 แต่ไม่รู้ว่ามาโผล่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้อย่างไร และที่รถมีสภาพลักษณะแบบนี้เพราะถูกรถเบียดชนขอบฟุตปาธ บริเวณสี่แยกประจวบ

ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ถามคนขับว่า แล้วหนีทำไม ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงมาตรวจสอบที่บริเวณแยกประจวบฯ จุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชน หรือล้อด้านหน้าขวาตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่มีร่องรอยรถครูดกับพื้นถนนมาตามถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากทม. ไม่ทราบระยะทางแน่ชัด และไม่รู้ว่าจุดเกิดเหตุที่แท้จริง อยู่ตรงไหนกันแน่

ซึ่งเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงประจวบฯจะตรวจสอบตามเส้นทางภายหลัง เพื่อตรวจดูความเสียหายทรัพย์สินของหลวงต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่าคนขับชื่อ นายชาคริต อายุ 27 ปี ชาว เขตหนองจอก กทม. ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ตรวจสอบรถพบว่าเป็นของนายชาคริตจริงไม่ได้เป็นรถที่ถูกโจรกรรมขโมยมา จึงโทรประสานญาติให้มาช่วยเหลือและรับตัวกลับ พร้อมกับนำตัวนายชาคริตผู้ขับขี่ไปพักรอญาติที่ สภ.อ่าวน้อย

นายอนุพงษ์ ถิ่นพังงา เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีรถประสบอุบัติเหตุ มีผู้บาดเจ็บที่บริเวณแยกประจวบ จึงมาให้ความช่วยเหลือ แต่เมื่อมาถึงคนขับได้ขับรถหนีออกมาเลย ตนจึงขับรถกู้ภัยติดตามมาโดยระหว่างทางเกิดประกายไฟตลอดทาง ซึ่งตนขับมาด้วยความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงยังตามไม่ทัน

โดยรถคันเกิดเหตุขับหนีวกไปวนมาหลายสิบกิโลเมตร ตนจึงติดตามมาอย่างกระชั้นชิด แต่รถยนต์คันดังกล่าวก็ไม่ยอมจอด จึงโทรแจ้งให้ตำรวจมาช่วยสกัด และยังไม่กล้าเข้าช่วยเหลือเนื่องจากเกรงว่าจะมีอาวุธ จึงได้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบก่อน

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)