แม้ว่าในสังคมไทยปัจจุบัน คณะสายมนุษยศาสตร์ทั้งหลายจะถูกให้ความสำคัญน้อยกว่าสายวิทยาศาสตร์ แต่เราเชื่อว่าคณะสายนี้จะต้องเป็นคณะในฝันของใครหลาย ๆ คน วันนี้เราจึงจะมาเล่าประสบการณ์การเรียนคณะอักษรศาสตร์ในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเป็นข้อมูลให้ทุกคนที่กำลังตัดสินใจเลือกคณะเรียนต่อค่ะ ผู้เขียนเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ รุ่นที่ 87 กำลังศึกษาวิชาเอกปรัชญา ปีที่ 4 หลักสูตรอาจมีการเปลี่ยนแปลงในรุ่นต่อ ๆ ไป ขอให้อ่านเพื่อเก็บเป็นข้อมูลนะคะ สังคมในคณะ สภาพแวดล้อมทั่ว ๆ ไป ความประทับใจแรกของการเรียนคณะอักษรฯของเราคือ นิสิตสามารถใส่ชุดไปรเวทได้ ยกเว้นอาจารย์บางรายวิชาที่จะรีเควสให้ใส่ชุดนิสิต แต่ส่วนใหญ่มักจะต้องใส่ในแค่วันสอบกลางภาคและปลายภาค เราจึงจะเจอทั้งนิสิตที่ใส่ชุดตั้งแต่แนวสบาย ๆ ไปจนถึงสวย หล่อ เท่ วินเทจ มีครบหมดเลย เพราะชาวอักษรฯเราเปิดกว้างต่อความแตกต่างหลากหลายมาก เลือกแต่งตามความชอบได้โดยที่ยังเป็นชุดสุภาพก็โอเคแล้วค่ะ ภาพบรรยากาศใต้ตึกมหาจักรีสิรินธร หรือตึกมหาจักร ใกล้กับโรงอาหาร หากใครกังวลเรื่องสังคม เราคิดว่าอักษรฯก็เหมือนที่คณะอื่น ๆ ในจุดที่มีคนหลากหลายแบบคละกันไป ลองหาเพื่อนที่เข้ากันได้ดูนะ ส่วนเราเองก็ได้รู้จักกับเพื่อน ๆ ที่น่ารักมาก ๆ สนิทกันเพราะติววิชาบังคับตอนปี 1 เพราะเนื้อหาเยอะมาก TT รอดมาได้เพราะเพื่อนเลยค่ะ นอกจากนั้น ในคณะก็มีกิจกรรมให้เลือกทำด้วย มีชมรมดนตรี ชมรมเต้น และอื่น ๆ อีก แต่หากใครไม่มีความสนใจด้านกิจกรรม (เหมือนเรา) คณะเราก็ไม่ได้บังคับนะ ตรงนี้เรารักมาก ในเรื่องอาหารการกิน ไม่ต้องห่วงเลยค่ะเพราะคณะอักษรฯเรามีโรงอาหารเป็นของตัวเอง อยู่ติดกับตึกมหาจักรีสิรินธร ตึกเรียนของเรานั่นเอง บอกได้เลยว่าอาหารโรงอาหารคณะเราอร่อยและราคาไม่แพง สิ่งที่ต้องห่วงคือนิสิตอักษรฯมักจะต้องประสบกับเวลาพักกลางวันอันน้อยนิด บวกกับคนในโรงอาหารที่เยอะมาก ก็จะต้องเร่งรีบนิดนึงนะคะ รีบซื้อ รีบทาน เพราะมีผู้หิวโหยอีกมากที่รอใช้โต๊ะต่อจากเราค่ะภาพบรรยากาศโรงอาหารคณะวิชาบังคับและการเลือกเอก สิ่งสำคัญที่นิสิตอักษรฯทุกคนต้องตัดสินใจก่อนเปิดเทอมในปีที่ 2 นั่นคือวิชาเอก ซึ่งแต่ละเอกก็จะมีเงื่อนไขในการเข้าเอกแตกต่างกันไป อย่างวิชาเอกภาษาที่สามที่เราเห็นส่วนใหญ่จะต้องลงเรียนวิชาที่เปิดในปีที่ 1 มาก่อน ทำให้การเรียนในปีที่ 1 จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เพราะมีการกำหนดเกรดขั้นต่ำด้วย เช่นเอกภาษาสเปนก็จะต้องลงเรียนวิชาภาษาสเปนตั้งแต่ปี 1 ทั้งสองเทอมเลย แต่นอกจากเอกภาษาที่สามแล้ว ก็ยังมีเอกอื่น ๆ ที่มีเงื่อนไขการลงรายวิชาที่นิสิตปี 1 ทุกคนต้องลงเรียนอยู่แล้วด้วย เช่น เอกปรัชญา เอกศิลปการละคร เอกภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ เอกไทย เอกอังกฤษ เอกเทคโนโลยีภาษาและสารสนเทศ (Lang Tech) หรือบางเอกก็ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เลย เช่น เอกประวัติศาสตร์ เอกสารนิเทศศึกษา อย่างเราเองก็พึ่งมารู้จักเอกต่าง ๆ ในคณะมากขึ้นก็ตอนที่ได้เรียนวิชาบังคับของภาคนั้น ๆ ดังนั้นเราจึงอยากจะแนะนำวิชาบังคับในคณะให้ทุกคนรู้จักดูก่อน เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนที่กำลังตัดสินใจเรื่องวิชาเอกกันนะคะ วิชาด้านทักษะภาษาวิชาการใช้ภาษาไทย (Use Thai Lang) ได้ทบทวนหลักการเขียนอย่างถูกต้อง หลักภาษาไทยบางอย่างที่เราอาจจะเข้าใจผิดมาตลอด ก็จะได้ถูก enlightened ในวิชานี้เลยค่ะ การเขียนภาษาไทยในที่ทำงาน (Thai Writ Work) ได้ฝึกเขียนจดหมาย หนังสือราชการ รายงานการประชุม การเขียนโครงงาน ไปจนถึงการเขียนสารคดี จำได้ว่ามีงานเดี่ยวให้เขียนสารคดีหนึ่งชิ้น ไม่เกินสามหน้า ไม่รวมภาพประกอบ เราทรมานกับการมานั่งตัดลบประโยคที่ไม่จำเป็นมาก ๆ เพราะเขียนเกินที่อาจารย์กำหนด เลยได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ท้าทายไม่ใช่เขียนอย่างไรให้เยอะหลายหน้า แต่เป็นการเขียนอย่างไรให้กระชับและได้ใจความที่สำคัญครบถ้วนต่างหาก ภาษาอังกฤษทั้งสองตัว (Eng I, Eng II) ได้ทบทวนไวยากรณ์ ฝึกพัฒนาทั้งทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน มีหนังสือนอกเวลาให้อ่าน ถือว่าเป็นการปลุกความเป็นนักอ่านในตัว จากที่เราไม่ใช่คนอ่านหนังสือเยอะก็กลายเป็นคนชอบอ่านมากขึ้น เพราะเอาจริง ๆ ก็สนุกดีนะวิชาฝึกการแปล (Intro Trans) ได้ฝึกแปลทั้ง ไทย-อังกฤษ และ อังกฤษ-ไทย เรียนแล้วทำให้รู้ว่าการแปลคืองานที่ยากมาก ก.ไก่ล้านตัว ไม่ใช่แค่การแปลจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งอย่างทื่อ ๆ แต่ต้องคำนึงถึงบริบทสังคมวัฒนธรรม ความเชื่อ ของทั้งภาษาต้นทางและปลายทางด้วย การเรียนวิชานี้ทำให้เราชื่นชมนักแปลขึ้นมาอีกเป็นร้อยเท่าเลยค่ะ หากใครอยากเป็นนักแปลก็ต้องวิชานี้เลย โดนอาจารย์คอมเม้นท์แบบเข้ม ๆ ช่วยเอาไปพัฒนาสกิลการแปลได้อย่างดีมาก ๆ แวะมาดูตึกบรมราชกุมารี หรือตึกบรมฯ กันค่ะ ห้องพักของอาจารย์ ห้องภาควิชาต่าง ๆ รวมถึงห้องบรรยายรวมที่นิสิตเรียกว่า ห้องบรรทมรวม ก็อยู่ในตึกนี้ 555+ เพราะในวิชาเซคใหญ่ ๆ อย่างวิชาอารยธรรม วิชาวรรณคดี นิสิตทั้งชั้นปีจะมาเรียนในห้องเดียวกัน ให้บรรยากาศที่อบอุ่นดีนะเราว่า หิวก็พกขนมมากิน หนาวก็พกผ้าห่มมาห่ม ง่วงก็ฟุบนอน สะดวกสบายสุด ๆ แต่ก็ต้องอย่าลืมค่ะว่าเรามาเรียนและเรามีสอบ Y-Y บรรยากาศใต้ตึกบรมฯ วิชาในภาคประวัติศาสตร์ อารยธรรมวิชาอารยธรรมตะวันออก (East Civ) เนื้อหาแบ่งออกเป็นอารยธรรมจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเอเชียใต้ มีอาจารย์ผู้สอนแตกต่างกันไปในแต่ละอารยธรรมตามความเชี่ยวชาญของอาจารย์แต่ละท่านที่มีสไตล์การสอนเป็นของตัวเอง วิชาอารยธรรมตะวันตก (West Civ) เป็นวิชาที่เรียนสนุกมาก อาจารย์สอนออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ เรียกได้ว่าตราตรึงใจ บรรยากาศการเรียนในห้องบรรยายรวมสนุกสนานสุด ๆ หัวเราะหนักมาก รับรองว่าได้ความรู้แบบแน่น ๆ เริ่มเรียนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของอารยธรรมมนุษย์กันเลย วิชาอารยธรรมไทย (Thai Civ) เน้นเรื่องสถาปัตยกรรมไทยขนานไปกับเรื่องประวัติศาสตร์ของไทยค่ะ จำได้ว่าเป็นวิชาที่มีทริปไปเที่ยวดูสถานที่เพื่อประกอบการเรียนและทำงานกลุ่มด้วย อารมณ์เหมือนทัศนศึกษา วิชาจากภาคปรัชญาวิชาการใช้เหตุผล (Reasoning)จำได้ขึ้นใจว่าได้เรียนแผนภาพเวนน์ (Venn diagram) และเรื่องการอ้างเหตุผลวิบัติ (fallacy) เป็นวิชาที่ทำให้เรารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนมีเหตุผลอย่างที่เคยคิด 555+วิชาปรัชญาทั่วไป (Gen Philos) เป็นวิชาบังคับที่ให้เราเลือกระหว่าง วิชานี้กับอีกวิชาหนึ่งคือ มนุษย์กับศาสนา (Man/Religion) นะคะ วิชานี้มีหลายเซคให้เลือกลงเรียน แต่ละเซคก็มีอาจารย์ผู้สอนแตกต่างกันค่ะ ในส่วนเซคของเราอาจารย์น่ารัก สอนเรื่องปรัชญาให้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก เราได้รู้จักทฤษฎีปรัชญาจากหลายสาขาก็จากวิชานี้ วิชาฝั่งวรรณคดี วรรณกรรมวิชาวรรณคดีไทย (Thai Lit) ได้ความจรรโลงใจจากการอ่าน เนื้อหาสะท้อนสังคม ประวัติความคิดความเชื่อของคนรุ่นเก่าแก่ ตัวบทที่ได้อ่านก็มีอย่างเช่นเรื่อง เงาะป่า มัทนะพาธา ไตรภูมิพระร่วง ลิลิตพระลอ รามเกียรติ์ การสอบก็ค่อนข้างเปิดกว้างต่อความเห็นของเราด้วยนะ ไม่ได้เน้นเคร่งให้จำเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียววรรณคดีทัศนา (Intro Lit) เป็นวิชาบังคับที่ให้เราเลือกระหว่างวิชานี้กับวิชาปริทัศน์ศิลปการละคร (สำหรับคนที่สนใจอยากเข้าเอกศิลปการละครค่ะ) วิชานี้เราได้เรียนรู้ทฤษฎีวรรณกรรมมากมายโดยอาจารย์หลายท่าน อย่างทฤษฎีวรรณกรรมกับความพิการ ทฤษฎีงานวรรณกรรมชายขอบ ไม่น่าเชื่อว่าการอ่านวรรณคดีจะสะท้อนสังคมได้มากขนาดนี้ บอกเลยว่ามีแต่คำว่าน่าสนใจเต็มไปหมด เสียดายที่เรียนเป็นออนไลน์เพราะโควิด ถ้าเรียนในห้องคงจะสนุกกว่านี้อีก วิชาด้านอื่น ๆวิชาทักษะการค้นคว้าและการใช้คอมพิวเตอร์ (Res Comp Skills) เป็นวิชาของภาควิชาเอกสารสนเทศค่ะ วิชานี้เน้นสอนทักษะตามชื่อวิชาเลย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้เครื่องมือในโปรแกรม Microsoft Word อย่างการเพิ่มเลขหน้า การเพิ่ม footnote หรือการเขียนอ้างอิงได้คล่องมากขึ้น ทำให้เขียนเปเปอร์ของวิชาอื่น ๆ ได้สะดวก เพราะได้ลองมือกับวิชานี้มาแล้ว วิชาภาษาทัศนา (Intro Lang) เป็นวิชาปูพื้นฐานภาษาศาสตร์ ใครสนใจเอก Lang Tech ก็จะได้ลองเรียนวิชานี้ดูก่อนเลย สำหรับเราเรียนแล้วก็น่าสนใจดีค่ะ แต่ก็มีมึนงงบ้างเพราะไม่คุ้นชินกับศาสตร์นี้เท่าไหร่วิชามนุษย์กับภูมิศาสตร์ (Man/Geog)เป็นอีกวิชาที่เนื้อหาเยอะมาก ความรู้ด้านภูมิศาสตร์แบบแน่น ๆ เริ่มเรียนตั้งแต่ภูมิศาสตร์คืออะไร เรียนเรื่องพื้นที่ สิ่งแวดล้อม ประชากรกับพื้นที่ และอีกมากมาย คนที่เล็งเอกวิชาภูมิศาสตร์ต้องวิชานี้เลย ส่วนเรานั้นไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ นึกถึงเกรดวิชานี้แล้วเศร้าใจ ขนาดติวกับเพื่อนแล้วนะ 555+ จากประสบการณ์ของเราเองก็เคยเปลี่ยนใจกับทั้งวิชาเอกและวิชาโทเลย 555+ ไม่ได้ภูมิใจกับความโลเลของตัวเองเท่าไหร่หรอก แค่อยากบอกทุกคนว่ามันโอเคที่เราจะมีเส้นทางคดเคี้ยวไม่เหมือนคนอื่นที่รู้ความต้องการของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น หากคิดว่าตัวเองชอบหรือสนใจวิชาไหนก็อาจจะลองศึกษา หาหนังสือมาอ่าน หรือลองลงเรียนวิชานั้น ๆ ดูก่อนก็ได้ บางทีไม่ลองก็ไม่รู้หรอกว่าเราชอบสิ่งนั้นจริง ๆ หรือเปล่า และหากว่าใครลองศึกษาดูแล้วรู้สึกว่ายังไม่ใช่ การเปลี่ยนทั้งวิชาเอกและโทหลังจากเลือกไปแล้วก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่อาจจะต้องพยายามมากเป็นพิเศษสักหน่อยในการเก็บหน่วยกิตของวิชาเอกหรือโทนั้น ๆ ให้ครบ เพราะเราจะเหลือเวลาน้อยกว่าเพื่อนในเอกคนอื่น หรือถ้าใครไม่ซีเรียสว่าต้องเรียนสี่ปีจบก็สามารถค่อย ๆ เก็บหน่วยกิตไปเรื่อย ๆ สี่ปีครึ่ง ห้าปีก็ยังทำได้ค่ะ เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะเก็บหน่วยกิตได้ครบตามเงื่อนไข ก็สามารถทำเรื่องเปลี่ยนวิชาเอกโดยการติดต่อที่ห้องทะเบียนตึกเทวาลัยได้เลยค่ะ จบไปแล้วกับการรีวิวประสบการณ์การเรียนคณะอักษรจุฬาฯ ตอนที่ 1 ค่ะ ในตอนที่ 2 เราจะมารีวิวประสบการณ์การเรียนในเอกปรัชญา ทั้งวิชาบังคับและวิชาเลือกในเอก เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนที่สนใจวิชาเอกปรัชญาลองอ่านเป็นข้อมูลกันดู โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ 😀เครดิตรูปภาพนอกเหนือจากภาพหน้าปกเป็นของผู้เขียนทั้งหมดเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !