มินิบอนไซคือบอนไซขนาดเล็ก ซึ่งคนจะเข้าใจก้ำกึ่งกันระหว่างบอนไซจิ๋วโดยส่วนใหญ่แล้วบอนไซจิ๋วจะมีขนาดเล็กกว่ามินิบอนไซ ซึ่งมีการกำหนดเอาไว้อย่างไม่เป็นทางการว่าบอนไซจิ๋วจะมีขนาดของลำต้นสูงไม่เกิน 3 เซนติเมตร หรือ ต้องเป็นบอนไซที่เล็กขนาดวางบน 'นิ้วมือ' นิ้วเดียวได้ ซึ่งสำหรับบทความนี้ดิฉันจะเล่าถึง 'มินิบอนไซ' เป็นหลักค่ะแรกเริ่มเดิมทีนั้นมินิบอนไซเป็นงานอดิเรกของดิฉัน จากนั้นได้มีการต่อยอดไปเป็นอาชีพเสริมค่ะคุณ ต้องบอกก่อนว่ามินิบอนไซนั้นคนส่วนใหญ่เลยมักจะเข้าใจว่าต้นทุนหลักคือราคาของ 'ต้นไม้' ที่นำมาทำเป็นบอนไซ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะความจริงแล้วเจ้ามินิบอนไซนั้นต้นทุนหลักมันอยู่ที่ตัว 'กระถาง' ค่ะคุณ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เล่นบอนไซจะให้ความสำคัญกับกระถางเป็นหลัก เรื่องของต้นไม้ที่ใช้เป็นจินตนาการแรกเริ่มเท่านั้น หากใครเคยทราบราคาของกระถางบอนไซขนาดกลางขึ้นไปจะรู้ดีว่าราคามันต่างจากกระถางดินเผาทั่วไปมากพอสมควร แต่เมื่อกล่าวถึงกระถางของมินิบอนไซแล้ว ต้องบอกว่าราคาไม่เล็กเหมือนหน้าตาเลยค่ะ เพราะส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกระถางปั้นมือแบบใบต่อใบ ซึ่งใช้เวลาและการเก็บรายละเอียดมากกว่ากระถางขนาดใหญ่ ด้วยความยากลำบากนี้เองจึงเป็นที่มาของราคาที่สูงพอสมควรค่ะคุณ หรืออีกทีหนึ่งคือกระถางสำเร็จรูปที่ขายทางออนไลน์ ราคาจะเบาลงกว่ากระถางปั้นมือมากเลยทีเดียวค่ะแต่ก็มีหลายเจ้าที่ใช้กระถางจากถ้วยชาของญี่ปุ่นมือสองดังภาพด้านบน โดยราคาจะถูกมากดั่งฟ้ากับเหว หากไม่ติดเรื่องของราคากระถางก็เป็นเรื่องของคุณค่าทางใจของคนทำบอนไซล้วน ๆ ค่ะคุณ ซึ่งถ้าจะยึดทำเป็นอาชีพแน่นอนว่าคนทำส่วนใหญ่เลยจะใช้กระถางจากถ้วยญี่ปุ่นมือสองมาทำค่ะเจ้าตัวมินิบอนไซมักจะนิยมคลุมหน้าดินด้วยมอส ซึ่งหญ้ามอสก็มีแยกย่อยไปอีกหลายสายพันธุ์ ปัจจุบันนี้การซื้อมอสสดไม่ยากเพราะมีขายออนไลน์ค่ะ ซึ่งตัวของดิฉันเองก็เคยทั้งใช้มอสแบบซื้อมาและมอสที่ไปเก็บเอง ซึ่งโดยส่วนตัวดิฉันชอบแบบเก็บเองมากกว่าเพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ นอกเสียจากว่าต้องการมอสสายพันธุ์อื่นจริง ๆ จึงจะสั่งซื้อมา ภาพด้านล่างถ่ายตอนไปเก็บมอสช่วงหน้าฝนค่ะอุปกรณ์คือตะไบแซะกับกล่องพลาสติก ตะไบซื้อแบบที่เค้าใช้ทำขนมโตเกียวน่ะค่ะคุณ เวลาแซะก็แซะทั้งดินขึ้นมาเลย สามารถนำมอสมาวางซ้อนกันได้ จัดเก็บโดยปิดฝาใส่ตู้เย็นได้นานเป็นเดือนค่ะสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือเจ้ามินิบอนไซที่เล็กค่อนไปทางบอนไซจิ๋วนั้น บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเจาะรูกระถางค่ะ เพราะพื้นที่เก็บความชื้นนั้นมีน้อยอยู่แล้ว แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องใช้ดินภูเขาไฟญี่ปุ่นในการปลูกบอนไซนะคะ เพราะดินเหล่านี้จะเป็นก้อนเล็ก ๆ แยกกัน ไม่ได้เนียนแน่นเหมือนดินปกติ ดินญี่ปุ่นสามารถใส่ยัดเข้าไปในกระถางให้อัดแน่นจนสามารถยึดตัวต้นไม้ให้อยู่ทรงกับกระถางได้โดยไม่ต้องใช้ลวดบอนไซมายึดช่วย ส่วนการให้น้ำไม่ใช่การรดน้ำเหมือนรดน้ำต้นไม้ทั่วไปนะคะ แต่คือการจุ่มทั้งกระถางลงไปในอ่างน้ำประมาณ 10 วินาที หรือจนกว่าฟองอากาศจะแทรกลอยผ่านรอยแยกของดินญี่ปุ่นขึ้นมาจนหมด เป็นเทคนิกที่นักเล่นบอนไซจิ๋วอย่างจริงจังจะทำกัน ต่างกับมินิบอนไซที่ขายอยู่ทั่วไปที่ใช้แค่ดินธรรมดา ซึ่งนั่นไม่ผิด แต่เดาว่าคนขายคงจะให้ความสำคัญกับการใช้ลวดดัดทรงต้นไม้เป็นหัวใจหลัก และขนาดของมินิบอนไซก็ไม่ได้เล็กมากอย่างในภาพ จากภาพบนคือมะพร้าวทะเลทรายใบกลม ซึ่งไม้โขดมักจะเป็นไม้ยอดนิยมในการทำบอนไซอยู่แล้วค่ะส่วนตัวดิฉันมักจะเล่นไม้โขดจำพวกไม้อวบน้ำเวลาทำมินิบอนไซหรือบอนไซจิ๋ว เพราะเป็นความชอบส่วนตัวค่ะ ซึ่งก็ได้มีการต่อยอดงานอดิเรกนี้เป็นอาชีพสร้างรายได้ เพียงแต่ต้องเลือกตลาดลูกค้าว่าต้องการแนวไหน แบบเข้าถึงง่ายหรือแบบจริงจัง ซึ่งแบบเข้าถึงง่ายในที่นี้หมายถึงการใช้ดินธรรมดากับต้นไม้อะไรสักอย่างที่มีชื่อเป็นมงคล มาปลูกลงกระถางที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นมือสอง โปะทับหน้าดินด้วยหญ้ามอส ซึ่งตลาดนี้ค่อนข้างซื้อง่ายขายคล่องค่ะคุณ แต่ดิฉันคิดว่ามันค่อนข้างจะฉาบฉวยและไม่ควรเรียกหาว่ามินิบอนไซที่แท้จริงหากจะกล่าวถึงบอนไซแต่ละชนิดรับรองว่าเขียนปีนึงก็คงจะบรรยายไม่หมดค่ะคุณ มันละเอียดยิบย่อยมากเหลือเกิน แต่ที่ดิฉันเลือกมาเล่นมินิบอนไซก็เพราะชอบของชิ้นเล็ก ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งมีข้อแนะนำว่าหากคุณจะเล่นมินิบอนไซหรือจะเล่นบอนไซจิ๋วนั้น คุณจะต้องมี 'เวลา' ให้กับมันค่ะ เพราะไม้พวกนี้จำเป็นต้องมีการรดน้ำต้นไม้ทุกวัน รดโดยการยกจุ่มน้ำอย่างที่ดิฉันได้บอกไปแล้ว แน่นอนค่ะว่าต้องยกจุ่มทีละกระถาง ทำจนมันครบทุกกระถางนั่นแหละค่ะ ซึ่งในประดามินิบอนไซของดิฉันนั้น มีเพียงกระถางเดียวที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็น 'บอนไซจิ๋ว' คุณสามารถดูได้จากภาพด้านบนค่ะ ที่มุมด้านขวาบนสุด จะเห็นกระถางดินเผาอันเล็ก ๆ ทรงกลม ขนาดฐานของกระถางกว้างเพียง 2 เซนติเมตรค่ะ การเลี้ยงมินิบอนไซเป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกที่สร้างรายได้ที่ดิฉันอยากแนะนำค่ะ เพราะขนาดที่เล็กกระทัดรัดเหมาะกับตั้งบนโต๊ะทำงาน จึงเป็นตัวเลือกที่ง่ายต่อการจับจ่ายของลูกค้าส่วนใหญ่ แยกประเภทออกมาจากการตั้งกระบองเพชรบนโต๊ะทำงาน น่าสนใจใช่มั้ยล่ะคะคุณ?.. ภาพประกอบบทความ : พริกเผ็ด