ทะเลเดดซี (Dead Sea) ทะเลสาบน้ำเค็มที่รอเวลานับถอยหลัง “ทะเลเดดซี (Dead Sea)” เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์แดน (ชายฝั่งตะวันออก) และประเทศอิสราเอล (ครึ่งทางทิศใต้ของชายฝั่งตะวันตก) ส่วนครึ่งทางทิศเหนือของชายฝั่งตะวันตกตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ กระทั่งในปี พ.ศ. 2510 ประเทศอิสราเอลก็เข้ายึดครองตั้งแต่เกิดสงครามอาหรับ - อิสราเอล ทะเลเดดซี (Dead Sea) รองรับน้ำเกือบทั้งหมดจากแม่น้ำจอร์แดนที่ไหลมาทางทิศเหนือ โดยทะเลเดดซีมีระดับความสูงที่ต่ำที่สุดและเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ต่ำที่สุดบนพื้นผิวโลก หลายทศวรรษในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ระดับพื้นผิวมาตรฐานของทะเลเดดซี (Dead Sea) นั้นอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 400 เมตร แต่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ประเทศอิสราเอลและประเทศจอร์แดนเริ่มเบี่ยงเบนการไหลของแม่น้ำจอร์แดนและเพิ่มการใช้น้ำมากขึ้นเพื่อการค้า ผลของกิจกรรมเหล่านั้นทำให้ระดับน้ำของทะเลเดดซี (Dead Sea) ลดลงอย่างรวดเร็ว การวัดระดับน้ำทะเลเดดซี (Dead Sea) เมื่อกลางทศวรรษที่ 2010 พบว่ามีระดับน้ำต่ำกว่าในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มากกว่า 30 เมตร (ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 430 เมตร) และระดับน้ำยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 1 เมตร ทะเลเดดซี (Dead Sea) ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขายูเดียทางทิศตะวันตก กับที่ราบสูงทรานสจอร์แดนทางทิศตะวันออก ก่อนที่ระดับน้ำจะเริ่มลดลงทะเลเดดซี (Dead Sea) มีความยาว 80 กิโลเมตร มีความกว้างสูงสุด 18 กิโลเมตร และมีพื้นที่ประมาณ 1,020 ตารางกิโลเมตร แหลมอัลลิซาน (Al-Lisān) แบ่งทะเลเดดซี (Dead Sea) ทางทิศตะวันออกเป็นสองแอ่งไม่เท่ากัน โดยแอ่งทางทิศเหนือล้อมรอบพื้นที่ 3 ใน 4 ส่วนของพื้นที่ทั้งหมดและลึกถึง 400 เมตร ส่วนแอ่งทางทิศใต้มีขนาดเล็กกว่าและตื้นกว่า (เฉลี่ยลึกประมาณ 3 เมตร) ระหว่างสมัยของพระคัมภีร์ไบเบิล จนถึงศตวรรษที่ 8 มีเพียงพื้นที่รอบๆ แอ่งทางทิศเหนือที่อาศัยอยู่ได้ และทะเลเดดซีก็มีระดับต่ำกว่าปัจจุบันเล็กน้อย ในปี พ.ศ. 2439 ระดับของทะเลเดดซีเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 389 เมตร แต่หลังจากปี พ.ศ. 2478 ก็ลดระดับลงอีกโดยมีระดับความสูงต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 400 เมตร เป็นเวลาหลายสิบปี การลดลงของระดับทะเลเดดซีในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 นั้น ได้เปลี่ยนลักษณะทางกายภาพของทะเลเดดซี (Dead Sea) ซึ่งที่เด่นชัดที่สุดคือแหลมอัลลิซาน (Al-Lisān) ค่อยๆขยายออกไปทางทิศตะวันออกจนกระทั่งแอ่งทางทิศเหนือและแอ่งทางทิศใต้ของทะเลเดดซีแยกออกจากกันด้วยแถบแผ่นดินที่แห้งแล้ง นอกจากนี้แอ่งทางทิศใต้ก็ถูกแบ่งย่อยจนเป็นสระน้ำขนาดใหญ่หลายสิบแห่ง ดังนั้นในศตวรรษที่ 21 แอ่งทางทิศใต้จึงยุติการเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติของทะเลเดดซี ส่วนแอ่งทางทิศเหนือในตอนนี้ยังเป็นทะเลเดดซีอยู่แม้ว่าจะสูญเสียน้ำไปอย่างมหาศาล ซึ่งหลักๆ แล้วก็เพราะแนวชายฝั่งลดลงอย่างมากโดยสังเกตจากภูมิประเทศที่อยู่รอบๆ ทะเลเดดซี (Dead Sea) อยู่ในทะเลทราย จึงมีปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอและไม่สม่ำเสมอ ค่าเฉลี่ยน้ำฝนของแหลมอัลลิซาน (Al-Lisān) อยู่ที่ระดับประมาณ 65 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งแหล่งอุตสาหกรรม (ที่ Sedom) อยู่ที่ระดับเพียง 50 มิลลิเมตรต่อปี เนื่องจากระดับที่ต่ำมากของทะเลเดดซีและเป็นบริเวณพักอาศัย อุณหภูมิในฤดูหนาวจึงไม่รุนแรงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียสในเดือนมกราคมที่ปลายสุดทางทิศใต้ (ที่ Sedom) และ 14 องศาเซลเซียส ที่ปลายสุดทางทิศเหนือ โดยไม่มีโอกาสเกิดอุณหภูมิเยือกแข็ง ส่วนอุณหภูมิในฤดูร้อนอากาศจะร้อนมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 34 องศาเซลเซียสในเดือนสิงหาคม (ที่ Sedom) และสถิติอุณหภูมิสูงสุดที่บันทึกไว้ได้คือ 51 องศาเซลเซียส การระเหยของน้ำในทะเลเดดซี (Dead Sea) อยู่ที่ประมาณ 1,400 มิลลิเมตรต่อปี โดยมักจะพบเห็นหมอกหนาเหนือผิวน้ำ และบรรยากาศตามแม่น้ำต่างๆ มีความชื้นแตกต่างกันตั้งแต่ร้อยละ 45 (เดือนพฤษภาคม) ถึงร้อยละ 62 (เดือนตุลาคม) สำหรับลมทะเลและลมชายฝั่งในทะเลเดดซีโดยปกติแล้วจะพัดออกจากทะเลทุกทิศทางในตอนกลางวัน และพัดเข้าสู่ใจกลางทะเลในตอนกลางคืนรูปภาพที่ 1/ รูปภาพที่ 2/ รูปภาพที่ 3/ รูปภาพที่ 4