นักไวรัสวิทยา เผยเคส "โควิดสายพันธุ์เดลต้า" ฉีดวัคซีนครบโดส แต่ป่วยหนัก-เสียชีวิต
วันนี้ (17 ก.ค.64) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Anan Jongkaewwattana" เกี่ยวกับกรณีศึกษาของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ระบุว่า สามีภรรยาชาวอินเดียคู่หนึ่งเดินทางไปงานแต่งงานที่เท็กซัส สหรัฐอเมริกา ก่อนเดินทางเข้าประเทศมีการตรวจหาเชื้อแล้วได้ผลลบ ก่อนเดินทางมาทั้งคู่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย COVAXIN เข็มสองครบมาแล้ว 10 วัน ในงานแต่งงานมีแขกมาร่วมงาน 92 คน จัดงานกลางแจ้ง โดยผู้มาร่วมงานทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบโดสกันหมด
เย็นวันนั้นภรรยาเริ่มบ่นปวดเมื่อยตัวแต่คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจาก jet lag หลังจากนั้น 2-3 วันทั้งสามีและภรรยาเริ่มมีอาการไข้ ไอ จนวันที่ 4 หลังจากงานแต่งงาน ทั้งคู่ตรวจพบว่าติดโควิด สามีอาการหนักขึ้นจนต้องส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เสียชีวิต ส่วนภรรยาอาการป่วยหนักเหมือนกันแต่ไม่รุนแรงเท่าสามี
ในงานแต่งมีแขกที่มาร่วมงาน อีก 4 คนที่มีสัมผัสใกล้ชิดกับสามีภรรยาคู่นี้ โดยทั้ง 4 คนได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna ครบหมดแล้ว พบว่า ทั้ง 4 คนมีอาการป่วยจากโควิดมากน้อยต่างกัน โดยหนึ่งในนั้นมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ต้องรักษาตัวในวันที่ 10 หลังวันแต่งงาน ผู้ป่วยรายนี้ได้รับ Pfizer ครบ
ผลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสจากผู้ป่วยทุกคน พบว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์เดลต้า และ มีความใกล้เคียงกันที่บอกได้ว่าน่าจะแพร่มาจากสามี ภรรยา คู่นี้จริงๆ
"เคสนี้น่าสนใจครับ เพราะเป็น Breakthrough infection ในกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนครบเป็นจำนวนคลัสเตอร์ค่อนข้างใหญ่ อาการป่วยหนักและเสียชีวิต ยังพบได้ในคนที่มีภูมิจากวัคซีนแล้ว และไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ในพื้นที่เปิด และอาจจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน...ไม่แน่ใจว่าแขกคนอื่นมีผู้ป่วยแบบไม่มีอาการอีกหรือไม่"