ใครที่ไม่เคยอ่าน THINK & GROW RICH หรือเคยอ่านของสำนักพิมพ์อื่นมาก่อน แล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ หรือรู้สึกว่าภาษาที่ใช้กับบริบทที่นำเสนอค่อนข้างล้าสมัย ลองมาอ่านเวอร์ชันสำนักพิมพ์ How to โดยเครืออมรินทร์ บอกเลยว่าเข้าใจง่าย กระชับ และรักษาสิ่งที่ต้นฉบับต้องการถ่ายทอดเหมือนเดิม Napoleon Hill ผู้เขียนต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ แม้จะไม่ได้เขียนเหมือนอย่างที่หนังสือต้องการถ่ายทอดโดยตรง แต่กระนั้นตัวเล่มก็ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ของต้นสังกัดโดยตรง การันตีรับรองคุณภาพ 100% แปลโดย มันตา คลังบุญครอง ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์ ได้เรียนรู้ว่าวิธีเปลี่ยนความปรารถนาที่จะมั่งคั่งให้กลายเป็นสิ่งจับต้องได้และใช้ได้กับเรื่องความสัมพันธ์ การงาน สติปัญญา การเงิน หรืออื่น ๆ 1.กำหนดจำนวนเงินแน่นอนที่ปรารถนาไว้ ในใจ อย่าคิดแค่ว่า “ฉันอยากได้เงินเยอะๆ" แค่นั้นไม่พอ...บอกจำนวนแน่ชัดมาเลย 2.ระบุให้ชัดเจนว่าคุณจะทุ่มเทสิ่งใดเพื่อให้ ได้เงินจำนวนที่ปรารถนา (เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำอะไรเลยแล้วได้สิ่งที่ต้องการ) 3. กำหนดวันที่ที่คุณตั้งใจจะเริ่มได้เงินจำนวนที่ปรารถนานั้น 4. สร้างแผนการชัดเจนและแน่นอนเพื่อให้ได้ สิ่งที่ปรารถนา และเริ่มลงมือทำทันทีไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้แผนที่วางไว้กลายเป็นจริง 5. เขียนแถลงการณ์สั้น ๆ และชัดเจนว่าเราอยากได้เงินเท่าไหร่ ระบุกำหนดเวลาของการหาเงินนี้ แจ้งว่าคุณยินดีทุ่มเทอะไรบ้างเพื่อเงินนี้ และอธิบายแผนการที่จะได้เงินจำนวนนี้ให้ชัดเจน 6.อ่านคำแถลงการณ์นี้ออกเสียงวันละสองครั้ง ก่อนเข้านอนและหลังตื่นนอนตอนเช้า ขณะอ่านขอให้พยายาม เห็น รู้สึก และเชื่อว่าตัวเองครอบครองเงินนั้นแล้ว โดยข้อหกจะสำคัญเป็นพิเศษ ได้เรียนรู้ว่าจะเชื่ออย่างไรว่าเราถือเงินนั้นในมือจริงๆ ตรงนี้ต้องใช้ความปรารถนาอันรุ่มร้อนมาช่วย ถ้าเราปรารถนามากจนกลายเป็นความหมกมุ่น การกล่อมตัวเองว่าจะต้องได้เงินนั้นมาแน่ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย จุดประสงค์คือการต้องการเงิน (หรือสิ่งใดๆ ที่อยากได้) และมุ่งมั่นจะมีเงินอย่างมากจนโน้มน้าวตัวเองว่าเราจะได้เงินนั้นแน่นอน ได้เรียนรู้ว่าการทำงานของจินตนาการมีสองแบบ นั่นคือ “จินตนาการเชิงสังเคราะห์ (Synthetic Imagination)” และ “จินตนาการเชิงสร้างสรรค์ (Creative Imagination)”จินตนาการเชิงสังเคราะห์ ทำให้เราจัดเรียงความคิดไอเดียหรือแผนการเก่าให้กลายเป็นส่วนผสมใหม่ จินตนาการแบบนี้ไม่ได้สร้างสิ่งใด ๆ เพราะเป็นแค่การจัดเรียงวัตถุดิบที่เป็นประสบการณ์ การศึกษา และการสังเกตสิ่งรอบตัว ได้เรียนรู้ว่าจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ ทำให้มนุษย์ที่มีข้อจำกัดทางจิตใจสามารถสื่อสารกับอัจฉริยภาพของจักรวาลได้โดยตรงเป็นส่วนที่ “ลางสังหรณ์” และ “แรงบันดาลใจ” เกิดขึ้น และเป็นส่วนที่นำพาแนวคิดทั้งเรื่องทั่วไปและแปลกใหม่มาสู่ผู้คน ได้เรียนรู้ว่าสี่ขั้นตอนของการสร้างแผนการที่ทำได้จริงผ่านการใช้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ 1.พาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างและบรรลุแผนความมั่งคั่งของเรา 2. ก่อนจะรวบรวมพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ลองคิดว่า เรามีข้อได้เปรียบหรือผลประโยชน์ใดที่จะตอบแทนสมาชิกกลุ่มแต่ละคนบ้าง ไม่มีคนฉลาดคนไหนจะร้องขอหรือคาดหวังให้คนอื่นทำงานให้โดยไม่จ่ายค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งไม่จำเป็นต้องจ่ายด้วยเงินเสมอไป 3. นัดหมายเพื่อพบปะหารือกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้าทำได้ จนเราได้แผนการสร้างความมั่งคั่งที่สมบูรณ์สุด 4. สร้างความสมานฉันท์แน่นแฟ้นกับสมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน ถ้าไม่ทำตามอย่างเคร่งครัด เราอาจล้มเหลวได้ หลักการผู้เชี่ยวชาญจะสำเร็จไม่ได้เลยถ้าไม่มีความสมานฉันท์แน่นแฟ้นภายในกลุ่ม ได้เรียนรู้ว่าโลกนี้มีคนสองประเภท คือผู้นำและผู้ตาม ลักษณะสำคัญของความเป็นผู้นำคือ 1. มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่มีพื้นฐานมาจากการ รู้จักตัวเองและอาชีพการงาน 2. รู้จักควบคุมตัวเอง คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็ไม่อาจควบคุมคนอื่น การรู้จักควบคุมตนเองคือการเป็นตัวอย่างดีเลิศให้ผู้ตาม 3. มีความยุติธรรม หากไม่มีวิจารณญาณเป็นกลางและยุติธรรมแล้ว ไม่ว่าจะผู้นำคนไหนก็ไม่อาจสั่งการหรือทำให้ผู้ตามเคารพเชื่อฟังได้ 4. ตัดสินใจเด็ดขาด การโลเลแสดงถึงความไม่มั่นใจของคนคนนั้น 5. วางแผนชัดเจน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องวางแผนและทำตามแผนนั้น 6. ทำงานเกินค่าตอบแทน ข้อเสียหนึ่งของการเป็นผู้นำคือต้องยินยอมพร้อมใจจะทำงานมากกว่าผู้ตาม 7. มีบุคลิกน่าประทับใจ 8. เห็นอกเห็นใจและเข้าใจ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องเห็นอกเห็นใจผู้ตาม ผู้นำที่ดีต้องเข้าใจผู้ตามและปัญหาที่อีกฝ่ายกำลังประสบด้วย 9. รอบรู้งานปลีกย่อย ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องรอบรู้งานปลีกย่อยที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งตัวเอง 10. พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ถ้าผู้ตามคนหนึ่งทำผิดและแสดงให้เห็นว่าไร้ความสามารถ ผู้นำก็ต้องยอมรับว่าตัวเองล้มเหลวที่จ้างผู้ตามคนนั้นมาทำงาน 11.ให้ความร่วมมือ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องเข้าใจและใช้หลักการความร่วมมือ และกระตุ้นให้ลูกน้องทำตามได้ การเป็นผู้นำต้องการพลังที่มาจากการร่วมมือกัน ได้เรียนรู้ว่าการวิเคราะห์มหาเศรษฐีหลายร้อยคนพบว่าทุกคนล้วนตัดสินใจรวดเร็ว และเปลี่ยนการตัดสินใจนั้น (ถ้าต้องเปลี่ยน) อย่างช้าๆ ได้เรียนรู้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ไม่อาจเพิ่มความร่ำรวยได้ถึงระดับที่ต้องการ มักถูกชักจูงโดยความคิดเห็นของผู้อื่นง่ายๆ จงฟังจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญดีกว่า ได้เรียนรู้ว่าความต้องการทางเพศเป็นความต้องการที่มีพลังมากสุดของมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ชาย ถูกผลักดันด้วยความต้องการนี้ พวกเขาจะสร้างจินตนาการชัดเจนแจ่มแจ้ง ความกล้า ความมุมานะ ความไม่ลดละ และความสามารถเชิงสร้างสรรค์ที่ไม่เคยเป็นเมื่ออยู่ในสถานการณ์อื่น พวกผู้ชายยินดีเสี่ยงชีวิตและชื่อเสียงเพื่อให้ได้ความสุขทางเพศเมื่อมีความต้องการแรงกล้า แต่หากนำพลังต่าง ๆ ที่พูดถึงเมื่อสักครู่ ทั้งจินตนาการ ความกล้า และอื่น ๆ มาใช้ นี่จะกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ที่มีแสนยานุภาพอย่างมากในด้านวรรณกรรม ศิลปะ อาชีพทุกแขนง รวมถึงการสร้างความร่ำรวย คนที่มีพัฒนาการทางเพศสูงได้ชื่อว่าเป็นนักขายยอดเยี่ยมสุด เพราะพวกเขามี“เสน่ห์เฉพาะตัว” หรือก็คือพลังทางเพศ 5 รูปแบบนี้ 1. การจับมือทักทาย การประสานมือจะบ่งบอกได้ทันทีว่าบุคคลนั้นมีเสน่ห์หรือไม่ 2. น้ำเสียง เสน่ห์หรือพลังทางเพศเป็นปัจจัยที่ทำให้ เสียงพูดของคนเรามีสีสัน ไพเราะ และน่าฟัง 3. ท่าทางและการวางตัว คนมีเสน่ห์ทางเพศสูงจะ เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม และเป็นธรรมชาติ 4. การสั่นสะเทือนของความคิด คนมีเสน่ห์ทางเพศสูงจะผสมอารมณ์ทางเพศกับความคิดตน และสร้างอำนาจในการชักจูงคนรอบข้าง 5. การแต่งกาย คนมีเสน่ห์ทางเพศสูงมักใส่ใจในภาพลักษณ์ตน และมักเลือกรูปแบบการแต่งกายที่เข้ากับบุคลิก ลักษณะรูปร่าง สีผิว และอื่น ๆ เวลาผู้จัดการฝ่ายขายที่มีความสามารถจะคัดเลือกพนักงานขาย เขาจะมองหาเสน่ห์เฉพาะตัวเป็นอันดับแรก คนไม่มีพลังทางเพศจะไม่มีทางกระตือรือร้น ความกระตือรือร้นเป็นปัจจัยสำคัญสุดอย่างหนึ่งในการขาย ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม นักการขายที่ประสบความสำเร็จรักษาระดับความเป็น “เซียน” ไว้ได้ เพราะพวกเขาแปรพลังทางเพศให้เป็นความกระตือรือร้นในการขายได้ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ได้เรียนรู้ว่าความไม่กล้าตัดสินใจเป็นตัวบ่มเพาะความกลัว โดยจะตกผลึกเป็นความลังเลสงสัย เมื่อความรู้สึกทั้งสองผนวกรวมกันจะกลายเป็นความกลัว ทั้งนี้ความกลัวพื้นฐานมีหกประเภท คือ กลัวยากจน กลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ กลัวสุขภาพไม่ดี กลัวเสียคนรัก กลัวความแก่ชรา และกลัวตาย ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้เห็นแนวปฏิบัติที่จะขัดเกลาความคิดของเราให้เห็นถึงความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของเงินมากขึ้น แต่บางเรื่องครีเอเตอร์มองว่าการอธิษฐานเห็นเงินในจินตนาการอาจทำได้ยาก ลองเปลี่ยนเป็นตำแหน่งงานที่เลื่อนขั้นสูงขึ้น ธุรกิจของเราเติบโตขยายสาขามากขึ้น มีกำไรมากขึ้น แบบนี้จะจินตนาการได้ง่ายกว่าการนึกถึงเงินสดโดยไม่มีสาเหตุของการได้มันมาในมือ เครดิตภาพ ภาพปก โดย xb100 จาก freepik.com ภาพที่ 3 โดย freepik จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย xb100 จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิวหนังสือ THE MAGIC OF THINKING BIG คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก รีวิวหนังสือ MANIFEST 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา รีวิวหนังสือ ไม่มีทุนช่วยก็รวยได้ (How to be a Capitalist without any capital) รีวิวหนังสือ ทำธุรกิจแบบผู้ชนะในทุกสถานการณ์ รีวิวหนังสือ ENTREPRENEUR REVOLUTION ผู้ประกอบการคนต่อไปต้องเป็นคุณ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !