ตร.เร่งล่าตัว คนร้ายอ้างเป็นจนท.ธนาคาร หลอกร้านคนละครึ่ง แนะวิธีรู้ทันมิจฉาชีพ

ข่าววันนี้ จากกรณีคนร้ายอ้างตัวว่าเป็นพนักงานธนาคาร โทรศัพท์เข้ามาที่ร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่งและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบระบบการใช้งาน โดยเมื่อร้านค้าหลงเชื่อก็จะนำข้อมูลไปทำการโอนเงินเข้ากับบัญชีธนาคารตนเอง โดยมีร้านค้าที่ถูกคนร้ายกลุ่มนี้กระทำการหลอกลวงแล้วในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้นรวมหลายแสนบาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 20 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีเงินจากรัฐบาลโอนเข้ามาที่ร้านซึ่งร่วมโครงการคนละครึ่งและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยอดรวมเฉพาะวันดังกล่าวเป็นจำนวนเงินมาก ประมาณ 89,000 บาท จากนั้นประมาณ 30 นาที มีข้อความเข้ามาว่าเงินได้ถูกโอนไปอีกหนึ่งบัญชี โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านไม่ทราบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปได้อย่างไร จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่

เมื่อรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้ประสานได้ยังบัญชีปลายทางที่โอนไป ทราบว่าอยู่ที่ปทุมธานี ขณะที่จากการไปที่ธนาคารสาขาบ้านไผ่ ทราบว่าการโอนเงินออกไปโดยที่ผู้เสียหายยังไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ นั้นในการโอนออนไลน์จะต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างครบ ถึงจะโอนได้ ประกอบด้วยเลขบัญชี เลขบัตรและรหัสบัตร ถ้าไม่ครบ 3 อย่างก็ไม่สามารถโอนได้ ทางธนาคารจึงสงสัยว่าทางผู้เสียหายจะต้องไปแจ้งองค์ประกอบ 3 อย่างให้กับกลุ่มมิจฉาชีพได้ทราบ จึงจะสามารถโอนเงินออกไปได้

ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตำรวจได้ทำหนังสือถึงธนาคารแล้วเพื่อดำเนินการสอบสวน และได้เชิญเจ้าของบัญชีปลายทางมาให้ปากคำและนำหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ขณะที่จากการสอบสวนผู้เสียหายให้การว่ามีโทรศัพท์มาและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร และ เจ้าหน้าที่พาณิชย์ให้อัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับกล่องตัวแสกนบัตร โดยอ้างว่าถ้าไม่อัพเดตก็จะไม่สามารถใช้งานได้ ก่อนที่จะมีการส่งลิ้งค์ข้อมูลมาให้กับผู้เสียหายได้กรอกในระบบ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและได้ทำการกรอกข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ และส่งกลับไปยังเบอร์ที่ส่งมาให้ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลที่โทรศัพท์มาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงินหรือกรอกข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ หรือให้ติดต่อไปยังหน่วยงานของรัฐโดยตรง เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป