กมธ.มั่นคงฯ จ่อหารือ สมช.สัปดาห์หน้า เปิดชายแดนช่วยค้าขายสะดวก หวังช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบในเมียนมาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวในประเทศไทย ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีศูนย์พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง จำนวนผู้หนีภัยประมาณ 8 หมื่นคน ซึ่งกมธ.ลงพื้นที่ จ.ตาก พบปัญหามากมาย เช่น พื้นที่พักพิงชั่วคราวแออัดทำให้ผู้หนีภัยติดโควิด – 19 จำนวนมาก ปัญหาเรื่องรายได้การดำรงชีวิต แม้จะได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรต่างประเทศแต่ก็น้อยลง ทั้งนี้ ทราบว่าความต้องการเบื้องต้นของผู้ลี้ภัย เป็นเรื่องของการหารายได้เพิ่มเติม การผลักดันให้คนที่อยู่ในศูนย์พักพิงสามารถออกมาทำงานได้ และเรื่องการศึกษา ซึ่งทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และรัฐบาล จะหารือกันว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

ด้าน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ. เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ จ.ตาก และ จ.เชียงราย พบว่าขณะนี้ท้องถิ่นเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะการค้าขายในระดับท้องถิ่นไม่สามารถทำได้สะดวก ทำให้สินค้าทางการเกษตรไม่สามารถขายได้ อยากฝากรัฐบาลว่าเมื่อเปิดประเทศแล้ว ไม่ใช่เปิดเฉพาะให้คนเดินทางเข้ามา แต่การเดินทางขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนต้องเปิดอย่างสะดวกด้วย เพื่อชีวิตพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนจะได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้ากมธ. จะเข้าพบ สมช. เพื่อนำเสนอปัญหาพร้อมเรียกร้องให้เปิดชายแดน หาแนวทางป้องกันเรื่องโควิด – 19 ให้ดีควบคู่ไปด้วย เนื่องจาก กมธ.เห็นว่าหากเปิดชายแดนแล้วเศรษฐกิจจะเฟื่องฟูขึ้น หากปิดนานเกินไป ชาวเมียนมา และลาว จะไม่ค้าขายกับเรา แต่จะไปซื้อสินค้าทำการค้าขายกับจีน และเวียดนาม ทำให้โอกาสทางการค้าเปลี่ยนไป