แบงก์ชาติอินโดฯ หั่นดอกเบี้ยปลุกเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรที่มีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน ร้อยละ 0.25 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 4.75 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2565 

การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่เริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยหั่นดอกเบี้ยรวมแล้วร้อยละ 1.5 และการดำเนินการล่าสุดก็สวนกระแสคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่าธนาคารกลางยังไม่น่าปรับลดดอกเบี้ย

ธนาคารกลางอินโดนีเซียยังได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลงในอัตราร้อยละ 0.25 เท่ากัน ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 3.75 และดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 5.5

“เพอร์รี วาจิโย” ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย ระบุว่า จะยังคงประเมินโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของเงินรูเปียห์และการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางวัฏจักรผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ขณะที่ตลาดเผชิญความผันผวนจากการประท้วงและความไม่สงบที่เกิดขึ้นในหลายเมืองตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการที่ประธานาธิบดีสั่งปลด “ศรี มุลยานี อินทราวตี” รัฐมนตรีคลังที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางจากการที่รัฐบาลกดดันให้มีดำเนินมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ

เมื่อต้นสัปดาห์ รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ สำหรับไตรมาส 4 ซึ่งรวมถึงเงินช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่อาจสร้างงานบางส่วน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัวร้อยละ 5.1 ในไตรมาส 2 ปีนี้ มากสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ “ปูร์บายา ยูดีห์ ซาเดวา” รัฐมนตรีคลังคนใหม่ เตือนว่า มีสัญญาณที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวในไตรมาส 3