SISเล็งไตรมาสส่งท้ายบูม ดีมานด์อุปกรณ์ไอทีหนุน
#SIS #ทันหุ้น – SIS ลุ้น Q4/2565 ผลงานดีกว่า Q3/2565 รับธุรกิจคอมเมอร์เชียล-คลาวด์หนุน พร้อมรุกเสริมโนว์ฮาวพนักงาน หวังเพิ่มส่วนแบ่งมาร์จิ้นในธุรกิจ AWS ลุยทำเฮดจิ้งค่าเงินบาท หวังบรรเทากระทบต้นทุน
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SIS เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2565 จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 3/2565 เนื่องจากธุรกิจในกลุ่มคอมเมอร์เชียล อาทิ การให้บริการโซลูชั่นต่างๆ, อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ฯลฯ กลับมาฟื้นตัว หลังปัจจัยเกี่ยวกับโควิดเริ่มคลี่คลายและทางภาครัฐได้มีการปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ เข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ กลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งทำให้เกิดความต้องการ (ดีมานด์) ในส่วนดังกล่าวมากขึ้น
ส่วนทิศทางธุรกิจในไตรมาส 3/2565 นั้นทาง SIS ประเมินว่าน่าจะมีโอกาสอ่อนตัวลงจากช่วงไตรมาส 2/2565 เพราะธุรกิจในส่วนของกลุ่มคอนซูเมอร์ อาทิ โทรศัพท์มือถือ (เดิมบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับแบรนด์ Xiaomi (เสี่ยวมี่) ฯลฯ นั้นมียอดขายที่ลดลง หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในกลุ่มข้างต้นยังมีอัตราที่ลดลงต่อเนื่อง
"สินค้าไอทีที่ใช้ในบริษัท ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มกลับทำงานในออฟฟิศกันมากขึ้น หนุนความต้องการใช้สินค้าไอทีของกลุ่มนี้ หลังชะลอการลงทุนไปในช่วงก่อนหน้า อีกทั้งกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value Added) จะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 4/2565 กลับมาดีขึ้น"
ลุยอัพมาร์จิ้นคลาวด์
นอกจากนี้ บริษัทมีแนวทางเสริมศักยภาพบุคลากรของธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อเสริมทักษะและความสามารถในการนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์เซอร์วิสให้กว้างขึ้น หลังล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ขยายฐานการให้บริการคลาวด์เซอร์วิสกับทาง "Amazon Web Service (AWS)" ซึ่งเป็นผู้บริการระดับโลก ซึ่งหากทาง SIS มีการเพิ่มทักษะให้มากขึ้นตามที่ทาง AWS กำหนดไว้ก็จะมีการเพิ่มส่วนแบ่งของอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ของบริษัทให้สูงขึ้นตามไปด้วย
นายสมชัย กล่าวเสริมว่า ประเด็นเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดมาอยู่ที่ราว 37.53 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (อิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 22 ก.ย. 2565) นั้นบริษัทมองน่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจพอสมควร เพราะสินค้าของธุรกิจส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการทำประกันความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงิน (ฟอร์เวิร์ด) เพื่อบริหารจัดการต้นทุนในส่วนดังกล่าว
อนาคตไกล 33 บ.
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SIS ราคาเป้าหมาย 33.00 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์แนวโน้มรายได้ที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2565 จากที่หดตัวในไตรมาส 3/2565 และต่อเนื่องในปี 2566 จากงานกลุ่ม Value ที่จะเพิ่มขึ้นควบคู่การเปิดตัวสมาร์ทโฟน Mi ใหม่ที่ได้ร่วมมือกับ Leica และSony หนุนให้ Average Ticket Size และ GPM เพิ่มขึ้น,
ขณะเดียวกันในแง่รายได้ธุรกิจ Cloud จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเพิ่มพาร์ตเนอร์ใหม่อย่าง Azure (Microsoft Cloud ที่มียอดขายเป็นอันดับ 2 รองจาก aws) ทำให้ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายบริการ Cloud ที่หลากหลาย ทั้ง SIS Cloud, aws, Azure, Alibaba cloud และ HPE Greenlake และ3.ผลกระทบจากการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เริ่มจำกัด
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ไว้ระดับ 828 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อน และในปีหน้าคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 888ล้านบาท แม้ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ารายได้ปี 2565 จะลดลง 5% จากปี 2564 ผลจากยอดขายกลุ่ม Volume ที่ลดลง จากการกลับมาทำงาน on site และยอดขาย Phone ที่กลับสู่ระดับปกติ