วันนี้ผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ว่าด้วยเรื่อง “กฎไตรลักษณ์” ซึ่งถือว่าเป็นกฎธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาจหลีกหนีกฎนี้ไปได้ เพื่อให้ทุกท่านตระหนักถึงสัจธรรมข้อนี้ จะได้ไม่ใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท และทำความเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของเรา เราไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุด ธรรมชาติต่างหากที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ภาพจาก pixabay.comโดยกฎไตรลักษณ์ประกอบไปด้วย อนิจจัง(ความไม่เที่ยง) คือ สิ่งที่มันเคยมีอยู่ แล้ววันหนึ่งจะไม่มี หาความยั่งยืนไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ร่างกายเรามีอยู่เพราะการเกิดมา และวันหนึ่งมันจะไม่มีเพราะเราต้องตาย ทุกขัง(ความไม่ทน) คือ สิ่งที่มีอยู่กำลังถูกบีบคั้นให้หายไป ไม่อาจอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป ตัวอย่างเช่น ร่างกายเราไม่สามารถคงให้มีความหนุ่มสาวหรือสุขภาพดีได้ตลอดไป เมื่อถึงวันหนึ่งมันจะแสดงความเป็นอนิจจังหรือต้องหายไปในที่สุด อนัตตา(ความไม่แท้) คือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เราไม่สามารถบังคับควบคุมมันได้ มันเป็นไปตามเหตุของมัน ตัวอย่างเช่น เราไม่สามารถห้ามความแก่ชราของร่างกายได้ เราไม่สามารถห้ามร่างกายไม่ให้เจ็บป่วยได้ เพราะว่าร่างกายมีธรรมชาติที่ต้องเสื่อมเป็นธรรมดา ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมัน มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ภาพจาก pixabay.com เมื่อได้รู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เราไม่สามารถควบคุมมันได้ และทำความเข้าใจว่า “ทุกอย่างมันเป็นเช่นนั้นเอง” ชื่อเสียงเงินทองที่เราได้รับมา มันก็เป็นเหมือนสมบัติผลัดกันชม สุดท้ายแล้วเมื่อเราดับสิ้นไป ทุกอย่างก็ไม่ใช่ของของเรา เงินทองที่เคยมีก็วนเวียนใหม่ไปเป็นสมบัติของคนอื่น แม้กระทั่งคนที่เรารัก เราก็ไม่สามารถทำให้เขาอยู่กับเราได้ชั่วนิรันดร์ภาพจาก pixabay.com “สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งหมดก็ย่อมดับไปเป็นธรรมดา” อย่ามัวแต่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ตนมีอยู่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างสักวันหนึ่งเราก็ต้องส่งคืนกลับให้กับโลกทุกอย่าง สุดท้ายแล้วไม่มีใครสามารถครอบครองอะไรได้เลยแม้กระทั่งลมหายใจ จงใช้หลักธรรมนี้ไว้เตือนสติให้ท่านรู้ตัวทุกชั่วขณะว่าทุกสรรพสิ่งเป็นของใช้ไม่ใช่ของฉันภาพปกจาก pixabay.com