รีเซต

นาทีระทึก! รถพยาบาลระเบิดหมอ-คนไข้หนีตายอลหม่าน

นาทีระทึก! รถพยาบาลระเบิดหมอ-คนไข้หนีตายอลหม่าน
TNN ช่อง16
25 มิถุนายน 2563 ( 10:54 )
221
นาทีระทึก! รถพยาบาลระเบิดหมอ-คนไข้หนีตายอลหม่าน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเกิดเหตุ รถพยาบาลฉุกเฉินระเบิดอย่างรุนแรง ก่อนมีเปลวไฟลุกไหม้ เหตุเกิดภายในโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล วิ่งหนีตายกันอลหม่าน 


หลังรับแจ้งเหตุตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี ประสานรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่ลุกไหม้รถตู้โตโยต้าสีขาว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ 


ด้านนายชาคริต เป้ามงคล อาสาสมัครเจ้าของรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับว่าจ้างให้มารับคนไข้ จากโรงพยาบาลกลับบ้านที่อำเภอบางปลาม้า  โดยก่อนหน้านี้มาที่โรงพยาบาล เพิ่งแวะไปเปลี่ยนถังอ๊อกซิเจนจากร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากถังเก่าเสื่อมสภาพ 


หลังจากเปลี่ยนถังอ๊อกซิเจนเสร็จ ก็ขับรถเข้ามาจอดรอรับคนไข้ โดยมีภรรยา และลูกสาววัย 1 ขวบ นั่งรออยู่ที่เบาะหน้า ระหว่างนั้นตนเองได้เปิดวาล์วถังอ๊อกซิเจนเพื่อเตรียมพร้อมรับคนไข้ซึ่งมีอาการทางหายใจ 








ขณะกำลังเปิดวาล์วอยู่ ก็เกิดประกายไฟลุกพรึบขึ้นบริเวณกลางตัวรถ ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนเองและภรรยาที่นั่งอยู่หน้ารถรีบอุ้มลูกหนีตายออกมาได้  และพยายามฉีดน้ำดับเพลิง แต่ไม่สามารถดับได้ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงส่วนรถพยาบาลกู้ชีพคันนี้ ยืนยันว่ามีการตรวจสอบสภาพ และ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานสาธารณสุขอย่างถูกต้อง 


ด้านนายแพทย์ พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เผยว่า สาเหตุการระเบิด ต้องรอให้พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานช่วยประเมิน ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ภายในอาคารศูนย์โรคหัวใจ มีกลิ่นแก๊สค่อนข้างเหม็น จะใช้เครื่องดูดอากาศมาดูดกลิ่นแก๊สออกไปก่อน จากนั้นจะประเมินโดยใช้เครื่องมือมาตรวจจับแก๊ส ที่อาจจะเกิดอันตรายต่อคนไข้ หากว่าไม่ปลอดภัย ก็ยังไม่เปิดให้บริการ ส่วนความเสียหาย เจ้าของรถกู้ภัย ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ 




เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ข่าวที่เกี่ยวข้อง