BCPG ไตรมาส 3 กำไร 564 ล. ลดลง 12% รายได้โรงไฟฟ้าลด-ต้นทุนดบ.เพิ่ม
#BCPG #ทันหุ้น - บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 564.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.19 บาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 640.86 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.22 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 1,277.73 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.44 บาท ลดลง 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,334.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.81 บาท
บริษัทชี้แจงว่าไตรมาสที่ 3/2566: บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มบริษัทฯ บันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 491.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.5 จากไตรมาสที่ 3/2565 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 169.2 จากไตรมาสที่ 2/2566 โดยมีปัจจัยดังต่อไปนี้
-21.5% YOY
(-) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศไทยลดลง เนื่องจากการสิ้นสุด Adder
(-) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาวลดลง จากปริมาณน้ำฝนที่ลดลง และมีการปรับปรุงสายส่งของโครงการ Nam San 3A
(-) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด
(+) อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโครงการคลังน้ำมันในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้ง ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาและโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าวข้างต้นบางส่วน
+169.2% QoQ
(+) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเข้มแสงที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล (Seasonal Factor]
(+) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป.ลาวเพิ่มขึ้น จากการกลับมาผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเต็มไตรมาส
(+) การรับรู้รายได้จากการดำเนินงานของโครงการคลังน้ำมันในประเทศไทยเต็มไตรมาส
(+) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล (Seasonal Factor)
(+) การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา การเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ 2 โครงการใหม่ รวม 426 เมกะวัตต์ และการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล
(-) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวได้รับผลกระทบบางส่วนจากการรับรู้ ผลการดำเนินงานที่ลดลงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย และดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น
ช่วง 9 เดือน ปี 2566: บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มบริษัทฯ บันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 818. 1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 51.6 จากช่วง 9 เดือน ปี 2565 โดยมีปัจจัยดังต่อไปนี้
(-) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศไทยลดลง เนื่องจากการสิ้นสุด Adder
(-) การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยัง EVN และเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าไปยัง EVN แล้ว
(-) ไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย จากการขายงินลงทุนในโครงการดังกล่าวเมื่อเดือนมีนาคม 2565
(-) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด
(+) อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโครงการคลังน้ำมันในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้ง ส่วนแบ่งกำไรจากผินลงทุนในบริษัทร่วมของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาและโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าวข้างต้นบางส่วน