ชาวปราจีนฯเศร้า ไฟไหม้ย่านเศรษฐกิจ กลางเมือง เสียหายเกิน 100 ล้าน

ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อม ผบก.ภ.ปราจีนบุรี และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบหลังเหตุเพลิงไหม้ ชุมชนย่านเศรษฐกิจ พบเสียหาย 32 คูหา มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บริเวณชุมชนร่วมใจ เทศบาลเมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่ปิดกิจการไปนานแล้ว ไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายกว่า 30 คูหา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 65 ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2565 นายวรพันธุ์ สุวัณสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายสุทร วิลาวัลย์ นายก อบจ. และพล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.ปราจีนบุรี ลงพื้นที่ประสบอัคคีภัย พร้อมสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเหลือดูแลประชาชน โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปราจีนบุรีจะนำสายไฟฟ้าเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหายออกทั้งหมด พร้อมเดินไฟฟ้าใหม่ให้สามารถใช้การได้ภายในวันนี้

ในส่วนของตำรวจ ได้ให้ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้จากการสอบสวนพยานแวดล้อมและภาพจากกล้องวงจรปิด และร่วมหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัยซึ่งจะนำความสูญเสียมาสู่ประชาชน

สำหรับโดยรวมหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ธนาคารกรุงไทย สาขาปราจีนบุรี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ความร้อนทำให้ตู้เอทีเอ็มไม่สามารถใช้การได้ ต้องปิดบริการชั่วคราว เช่นเดียวกับธนาคารกสิกรไทย ที่ไฟลามไปเกือบถึงก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

นายวรพันธุ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ให้การช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน โดยทางเทศบาลเมืองปราจีนบุรีร่วมกับพัฒนาสังคม จ.ปราจีนบุรี ได้ตั้งเต็นท์รับลงทะเบียนให้กับผู้ได้รับความเสียหายที่ข้างที่ทำการเทศบาลเมืองปราจีนบุรี และนำอาหาร น้ำดื่ม มาบริการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นายอำนาจ วิลาวัลย์ สส.ปราจีนบุรี กล่าวว่า บ้านตนเองที่เป็นร้านจำหน่ายแว่นตา ,นาฬิกา ถูกเพลิงไหม้ทั้งหมดเช่นกัน อยู่ห่างต้นเพลิง 2 คูหา ก่อนเกิดเหตุกลับมาจากงานศพ เห็นเพลิงลุกไหม้ต้นเพลิงที่เลิกกิจการมาหลายปีและปิดไว้ ก่อนลามไปอาคารพาณิชย์อื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่าแก่ สงสัยว่าร้านต้นเพลิงปิดมานานทำไมจึงเกิดเพลิงลุกไหม้ไฟลัดวงจรได้”นายอำนาจกล่าว

ด้านนายสุนทร กล่าวว่า มาตรวจดูสภาพความเสีย และประเมินดูว่าจะสามารถดูแลช่วยเหลือกับประชาชนต่อไปอย่างไรทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ ของ อบจ. ประเมินดูจากอาคารร้านค้าพาณิชย์ย่านการค้าแล้วเสียหายมากเกินกว่า 50 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ได้ช่วยเหลือส่วนตัวบริการอาหารการกิน น้ำดื่มนำมาบริการแก่ประชาชน เจ้าหน้าที่ด้วย และประสานหน่วยปอเต็กตึ๊งมาดูแลให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนด้วย ส่วนชาวบ้านย่านนี้ ส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างดี หลังเกิดเหตุได้ไปพักอาศัยตามบ้านญาติเป็นส่วนใหญ่

นายบุญเกื้อ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นบ้านเรือน ร้านค้า อาคารพาณิชย์ ถูกเพลิงไหม้รวม 32 หลัง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท จึงได้จัดจุดบริการรับลงทะเบียนผู้ได้รับความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยา และในวันนี้จะได้ตั้งศูนย์พักพิงแก่ผู้ประสบภัยในเทศบาลเมืองปราจีนบุรีต่อไป