คลังเตรียมปรับเกณฑ์ผู้มีสิทธิถือบัตรคนจนปี 68 นัดถกคณะทำงาน 21 พ.ย.นี้
คลังเตรียมปรับเกณฑ์ผู้มีสิทธิถือบัตรคนจนปี 68 นัดถกคณะทำงานเพื่อวางกรอบ 21พ.ย.นี้ ก่อนที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียนในช่วงเดือนมี.ค.68
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ได้นัดประชุม คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเตรียมทบทวนเกณฑ์การลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ที่จะมีขึ้นราวเดือนมี.ค.2568 ซึ่งเบื้องต้น ตนจะสั่งการให้ไปดูเกณฑ์ต่างๆว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุง เช่น เรื่องเกณฑ์ที่ดิน ที่ยังมีปัญหา เป็นต้น
“การประชุมในครั้งนี้ คงไม่ได้สรุปจบในครั้งเดียว อาจจะมีการประชุมต่อเนื่องเรื่อยๆ และเรื่องนี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพราะการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ คือช่วงเดือนมี.ค. 2568”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด คือเมื่อวันที่ 5 กันยายน- 31 ตุลาคม 2565 เพื่อเป็นการทบทวนผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการใหม่ ทั้งนี้ ตามโครงการเดิมเมื่อปี 2560-2561มีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 14.9 ล้านคน ส่วนปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ ประมาณ 13.5 ล้านคน สาเหตุที่จำนวนลดลงนั้น เนื่องจากผู้มีสิทธิเสียชีวิต
ส่วนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ เพิ่มการตรวจสอบคุณสมบัติของครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องรายได้ เช่น กรณีผู้ลงทะเบียน เป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่หาก สามีมีรายได้หรือทรัพย์สินที่สามารถดูแลได้ทั้งครัวเรือน โดยนำรายได้มาหารเฉลี่ยในต่อหัวของคนในครอบครัวแล้ว ยังเกินเส้นที่กระทรวงการคลังตั้งขึ้น รายได้ 1 แสนบาทต่อคนต่อปี ผู้ลงทะเบียนที่เป็นแม่บ้านก็จะไม่ผ่านเกณฑ์
ทั้งนี้ คุณสมบัติบุคคลที่ลงทะเบียนยังคงเดิม คือ1.ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย 2.อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 3.ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว. ด้วย 4.มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
5.ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่าง ๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน 6.ไม่มีวงเงินกู้เกินที่กำหนด กรณีสินเชื่อบ้านต้องไม่เกิน 1.5 ล้านบาทขึ้นไป กรณีสินเชื่อรถยนต์ต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท 7.ไม่มีบัตรเครดิต และ 8.ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด