สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะจบจากรั้วมหาลัยในเร็ว ๆ นี้ ก็คงจะคิดหนักกันอย่างมากสำหรับก้าวต่อไปที่จะต้องใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว และเริ่มต้นที่จะเข้าสู่วัยทำงาน เพราะการทำงานจริงกับการเรียนทุกอย่างจะแตกต่างกันมาก ความแตกต่างระหว่างการเรียนและการทำงานเรียกได้ว่าทุกสาขา ทุกวิชาชีพแตกต่างกันหมด ถ้าจะให้ตอบคำถามว่า ปริญญา vs ประสบการณ์ อะไรสำคัญกว่า คำตอบมันก็คงไม่ตายตัวเพราะแต่ละวิชาชีพแต่ละงานก็จะให้ความสำคัญกับสองเรื่องนี้แตกต่างกัน และในปัจจุบันนี้ผู้คนก็ให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้แตกต่างกันภาพโดย unsplashการก้าวเท้าเข้าสู่วัยทำงาน การหางานที่ตนเองถนัด และสัมภาษณ์งานในบริษัทที่ตัวเองเลือกคงถือเป็นสถานีแรกที่เด็กจบใหม่ทุกคนต้องเผชิญ สำหรับใบปริญญามันเป็นเหมือนใบเบิกทาง เป็นเครื่องหมายยืนยันตามบรรทัดฐานของสังคมว่าเรามีคุณสมบัติในสายงานนั้นจริง ๆ ส่วนประสบการณ์คือความสามารถ การเรียนรู้ และการแก้ปัญหาในงานนั้น ๆ อย่างตรงจุด ความสำคัญของทั้งสองมีความสำคัญทั้งคู่แต่ใช้กันคนละจุด จะแตกต่างกันก็ตรงที่บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์จะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ภาพโดย unsplashปริญญา อย่างที่พูดไปข้างต้นว่ามันเปรียบเสมือนใบเบิกทาง เพราะก่อนที่คุณจะก้าวเท้าเข้าไปทำงานในบริษัทที่คุณต้องการ คุณก็ต้องมีปริญญาเพื่อเป็นเครื่องหมายการันตีว่าคุณมีความสามารถในด้านที่บริษัทเปิดรับสมัครจริง ๆ เพราะสำหรับบ้างสาขาวิชาความรู้เฉพาะเป็นสิ่งสำคัญ เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวะ สถาปนิก ฯลฯ ในประเทศไทยปริญญาถือว่าสำคัญเพราะเป็นบรรทัดฐานที่สังคมกำหนด สำหรับการเลือกบุคคลเข้าทำงานในองค์กร คนที่จบมาในสาขาต่าง ๆ ถ้ามีใบปริญญาด้านไหนที่ตลาดแรงงานกำลังให้ความสนใจ ค่าตอบแทนก็จะมากกว่าคนอื่น เราจึงเห็นเด็ก ๆ หลายคนเรียนในสาขาวิชาที่ตัวเองไม่ชอบเพราะต้องการใบปริญญาเพื่อเป็นใบเบิกทางในวิชาชีพนั้นเองประสบการณ์ เป็นเรื่องตามมาหลังจากที่เราผ่านด่านแรกและได้เข้ามาทำงานในบริษัทแล้ว ประสบการณ์ถือว่าสำคัญมาก เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่การทำงานแบบเต็มตัว มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนตอนเรียนอีกแล้ว เพราะการทำงานจริงการแข่งขันสูงมาก คุณสามารถที่จะทำผิดพลาดเวลาทำงานน้อยมาก เพราะเวลาทำงานจริงถ้าคุณทำงานออกมาได้ไม่ดี หรือคุณอ่อนประสบการณ์มากกว่าคนอื่นมาก ๆ และยิ่งทำงานก็เหมือนจะไม่มีการพัฒนาใด ๆ เกิดขึ้น บริษัทก็พร้อมจะพิจารณาเพื่อหาคนมาแทนที่คุณทุกเมื่อ ดังนั้นถ้าคุณยังใหม่มาก ๆ หรือพึ่งเรียนจบมา คุณต้องขยันมากกว่าคนอื่น ๆ และเรียนรู้งานให้ไว คิด และทำทุกอย่างให้คล่องแคล่ว เพราะถ้าคุณยิ่งอยู่ในองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงพนักงานอยู่ตลอดเวลา ศักยภาพและประสบการณ์สำคัญมากอย่างยิ่งใบปริญญามีค่ากับคุณมากแค่ไหน?ไหนใครบ้างที่ตรากตรำเรียนอย่างหนักเพื่อให้ได้งานดี ๆ และมั่นคง แน่นอนว่าต้องมีน้อง ๆ หลายคนที่ทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อเป็นใบเบิกทางในอนาคต หว่านพืชย่อมหวังผลใช่ไหม? ดังนั้นใบปริญญาจึงมีค่ามากอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวการันตีว่าคุณเก่งแค่ไหนแต่มันถือเป็นเครื่องยืนยัน ว่าชีวิตที่เรียนมาทั้งหมดคุณผ่านวิชาและได้ความรู้อะไรมาบ้าง ปริญญาจึงมีคุณค่าทั้งต่อการสมัครงานและจิตใจประสบการณ์มีความสำคัญมากแค่ไหน?ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันคือสิ่งที่เราทำมาในอาชีพของเราทั้งหมด มันคือการสั่งสมความรู้และการแก้ปัญหาต่าง ๆ ประสบการณ์ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะศึกษางานมาแต่ละอย่าง ประสบการณ์จึงมีความสำคัญในการทำงานตลอดชีวิต และคนหนึ่งคนเวลาทำงานในแต่ละบริษัทก็จะมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันทั้งเรื่องดีและไม่ดี ดังนั้นอดทนสั่งสมประสบการณ์เพื่อความมั่นคงในอนาคตนั้นเองถ้าเรียนจบมัธยมแต่ประสบการณ์เต็มร้อย & เรียนจบมหาลัยแต่ไม่รู้อะไรเลย บริษัทจะเลือกใคร ?ถ้าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานปริญญาสำคัญกว่าประสบการณ์ เพราะด่านแรกที่คุณจะเข้าไปทำงานที่บริษัทคุณต้องมีคุณสมบัติที่ตรงตามที่บริษัทต้องการก่อน เพราะถ้าคุณเป็นคนเก่งแต่คุณสมบัติไม่ผ่าน บริษัทก็ไม่สามารถที่จะเลือกคุณได้ นี้จึงเป็นจุดอ่อนอีกจุดหนึ่งของตลาดแรงงานไทยที่คนที่มีต้นทุนการศึกษาที่แตกต่างกันมักมีความได้เปรียบเสียเปรียบ ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกันที่บริษัทต้องตัดคนเก่งไปเพราะคุณสมบัติพื้นฐานไม่ผ่าน ดังนั้นจึงทำให้คนที่มีใบปริญญามีโอกาสมากกว่าคนที่ไม่มีใบปริญญา แต่ปริญญาไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเพราะถ้ามีปริญญาแต่ไม่มีความสามารถบริษัทก็ไม่จ้างเช่นกันตลาดแรงงานต้องการคนมีปริญญา & ประสบการณ์มากกว่ากัน ?ถ้าเจอคำถามนี้ก็คงต้องถามต่อว่าอาชีพอะไร เพราะในแต่ละอาชีพก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน บางอาชีพก็ต้องการคนที่มีปริญญาเยอะ ๆ เกรดดี ๆ บางอาชีพก็ดูที่ประสบการณ์และผลงานแทบไม่แยแสใบปริญญาและเกรดเลย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าตลาดจะต้องการคนแบบไหนมากกว่าก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะประกอบอาชีพไหนต่างหากสำหรับใครที่อยากไปทำงานที่ต่างแดน อย่างอเมริกาก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าเพราะเราคิดว่าระบบการทำงานของอเมริกาเป็นระบบแบบแฟร์ ๆ เวลาคัดคนก็จะไม่มานั่งคัดว่าคนไหนปริญญากี่ใบ เกรดเท่านั้น เหมือนเขาให้โอกาสทุก ๆ คนในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน แต่ไม่ใช่ว่าให้โอกาสทุกคนแล้วจะได้ทุกคนเพราะตัวของคนที่ไปสมัครก็ต้องมีของด้วย มีความแตกต่างจากคนอื่น มีบุคลิกดี มีผลงานที่น่าสนใจ ฝรั่งจะเน้นจากการดูภาพรวมของคนมากกว่าจากตัวอักษรและใบการันตีนั้นเองภาพโดย unsplashถ้าเจอคำถามว่าปริญญา vs ประสบการณ์ อะไรสำคัญกว่ากัน? เราคิดว่าแต่ละคน แต่ละช่วงอายุก็จะให้ความสำคัญกับสองอย่างนี้แตกต่างกันไป สรุปสุดท้ายก็คือ สำหรับความคิดเราแล้วปริญญาสำคัญในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน หลังจากเข้าทำงานแล้วก็เป็นเรื่องของประสบการณ์ทั้งหมด ถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่าสำหรับเรา เราคิดว่าเป็นประสบการณ์เพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถการันตีว่าเรามีความเชี่ยวชาญต่องานที่ทำมากแค่ไหน ดังนั้นเมื่อคุณพึ่งเรียนจบและหางานทำ ถ้าคุณตั้งใจ มีความสามารถและอดทนไม่ว่างานไหน ๆ คุณก็ทำได้เสมอ