S&P ลุยธุรกิจไก่ทอด "Wingstop" เนม Getsunova นั่งบริหาร

Wingstop (วิงสต๊อป) แบรนด์ไก่ทอดจุ่มซอส ชื่อดังจากสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีกว่า 3,000 สาขา ใน 18 ประเทศทั่วโลก ล่าสุด เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทยแล้ว ที่ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ พร้อมกับเป้าหมายการเป็น Top of Mind หรือ แบรนด์ที่หนึ่งในใจของคนรุ่นใหม่ บริหารโดยบริษัท เอสแอนด์พี วิงส์ จำกัด ในเครือบริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ภายใต้สัญญา มาสเตอร์แฟรนไชส์ ในการนำแบรนด์ วิงสต๊อป เข้ามาขยายตลาดในไทย

คุณ ปราการ ไรวา ผู้บริหารแบรนด์ วิงสต๊อป ประเทศไทย กล่าวว่า วิงสต๊อป เป็นแบรนด์ที่น่าตื่นเต้น และมีฐานแฟนคลับอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว ก่อนที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนเทรนด์ในเมืองไทย ขณะที่ เอสแอนด์พี ซึ่งอยู่กับคนไทยมานาน ก็ต้องการที่จะเจาะตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะ นิวเจน จึงเชื่อว่าแบรนด์นี้น่าจะตอบโจทย์ และมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว โดยดำเนินการภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก คือ ทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่จากอินไซต์จริงที่ทำไปแล้ว เช่น การจับมือร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจแบบลงลึกไปถึงความคิดและวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่

ถัดมา เป็นเรื่องของรสชาติที่มีความหลากหลาย และยึดมาตรฐานการผลิตและคุณภาพที่เข้มข้นเหมือนกันทั่วโลก นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับหลังบ้านที่แข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมในการขยายสาขาในอนาคต ตลอดจนการมุุ่งทำแบรนด์เพื่อให้เติบโตและเป็นส่วนหนึ่งของคนรุ่นใหม่

หลังเปิดสาขาแรกในช่วงปลายปี 2568 แล้ว ปีหน้า (2569) มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 5-6 แห่ง ซึ่งยังเน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯ จากนั้นค่อยขยายไปสู่ต่างจังหวัดในระยะถัดไป พร้อมกับเป้าหมายยอดขายในปีแรก ตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท

ส่วนตลาดไก่ทอดในภาพรวม ผู้บริหารแบรนด์ วิงสต๊อป ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดไก่ทอดในประเทศมีความคึกคัก และยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตราวร้อยละ 8-10 ต่อปี แต่ไม่ว่าการแข่งขัน และภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ยึดมั่นคือการนำเสนอความแตกต่าง ตลอดจนมุ่งพัฒนาและทำให้แบรนด์แข็งแกร่ง

และสำหรับการเปิดตัวบทบาทใหม่ ในฐานะผู้บริหารธุรกิจเต็มตัวเป็นครั้งแรก คุณ ปราการ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ เช่นที่ผ่านมาได้เข้าไปอบรมด้วยตัวเองในอเมริกา เพื่อเรียนรู้กระบวนการทั้งหมดของไก่ทอด รวมถึงการจะใช้ศักยภาพของตนเองที่อยู่ในวงการบันเทิง ในการผลักดันการเติบโตของแบรนด์ด้วย