เกมการลงทุนและกลยุทธ์การลงทุนล้วนมีแบบแผนเพื่อหลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด และได้รับผลตอบแทนตามความคาดหวัง ในระยะเวลาที่คาดหมายได้ แม้จะไม่ได้ตรงตามเป้า แต่ก็ยังใกล้เคียงดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เขียนบทความรวมเล่มนี้ได้เขียนถึงแนวคิดและหลักการลงทุนหุ้นในประเทศไทย สมัยปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ทำให้ครีเอเตอร์ได้มาศึกษาทิศทางการลงทุนอย่างตกผลึก เมื่อได้รวมข้อคิดการลงทุนหุ้นจากเซียน VI ท่านนี้เนื้อหาภายในเล่มกำเนิด VIงานประจำของ VIความฝันของ VIVI Effectมหัศจรรย์ของหุ้น VIลดความเสี่ยงแบบ VIสัญญาณแห่งคุณค่าสัญญาณแห่งความรุ่งเรืองหนึ่งวันของบัฟเฟตต์เส้นทางความมั่งคั่งของบัฟเฟตต์บัฟเฟตต์ข้างบ้านเจสซี่ ลิเวอร์มอร์ นักเก็งกำไรบันลือโลกเจ้ามือป๊อกเด้งคำพูดอมตะIn Search of Super StockKISS Investingไข่ในตะกร้าValue + Growthนักเก็งกำไร vs นักลงทุนทฤษฎีเล่นหุ้นของนักลงทุนปันผลคือพื้นฐานหุ้นเล่นหุ้นแบบไหนดีที่สุดเล่นกับฟองสบู่เล่นกับหุ้น IPOเล่นที่ผ่านหุ้นวิวัฒนาการของการเก็งกำไรหุ้นตัวเล็ก vs หุ้นตัวใหญ่หุ้นตัวเล็ก vs หุ้นตัวใหญ่อยู่กับหุ้น 100%คำสาปของผู้ชนะความเสี่ยงของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ค่าเงินบาทGT 200 กับการเล่นหุ้นกฎของสงครามธรรมชาติของจิตใจกระทิง หมู หมีขอบเขตของความรอบรู้คนเหมือนกันทั้งโลกปลากับน้ำพฤติกรรมผู้บริหารไพร่ อำมาตย์ เสรีชนโลกของศิลปินหมึกพอลในตลาดหุ้นอนาคตของสื่ออาหารหรือขยะสิ่งที่ได้เรียนรู้ในมุมมองของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่านักลงทุน VI มีงานประจำอย่างหนึ่ง คือการอ่านหนังสือแนว VI และการอ่านหนังสือเรื่องอื่นๆอย่างประวัติศาสตร์และจิตวิทยา แม้ไม่เกี่ยวกับการลงทุนแต่มันช่วยให้การลงทุนของเราเข้าใจทิศทางตลาดดีขึ้น มีการพูดคุยกับเพื่อนลงทุนบ้าง มีการเยี่ยมเยือนบริษัทจดทะเบียนในงาน Opportunity Day และ ติดตามผลการดำเนินงานประจำไตรมาสของบริษัทจดทะเบียนว่าเรายังควรถือหุ้นนั้นต่อหรือขายทิ้งดีกว่าได้เรียนรู้วิธีคัดเลือกหุ้น Value ในยุค 2553 คือหาหุ้นที่มีค่า PE ไม่เกิน 10 เท่า ค่า PB ไม่เกิน 1 เท่า ผลตอบแทนปันผล (Dividend Yield) ไม่ต่ำกว่า 3 %ได้เรียนรู้การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงต่ำ มีเกณฑ์ดังนี้1.รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่2.กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ไม่ถือหุ้นเกิน 5-10 ตัว3.พยายามมองการณ์ไกล วิเคราะห์อนาคต 3-5 ปี วางแผนเพื่อลงทุนระยะยาว4.เลือกบริษัทที่มีผลดำเนินงานสม่ำเสมอทั้งยอดขายและกำไร5.เลือกบริษัทที่มีเงินสดมากและมีหนี้เงินกู้น้อย ถ้าไม่มีหนี้ได้ยิ่งดี6.เลือกหุ้นที่ให้ปันผลสม่ำเสมอ ปราณปีละ 3-4% ขึ้นไป เมื่อเทียบกับราคาหุ้น7.ติดตามบริษัทถึงตัวเลขผลการดำเนินงานและประเมินข่าวสารต่างๆของบริษัท8.ติดตามข่าวเศรษฐกิจและภาวะตลาดหุ้น9.หลีกเลี่ยงการกู้หรือใช้มาร์จินในการลงทุนหุ้นที่มีคุณค่ามากขึ้น สังเกตสัญญาณได้จาก....1.Market Share หรือส่วนแบ่งทางการตลาดของสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ2.บริษัทสามารถควบคุมราคาขายของสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ3.ลูกค้ามีความภักดีต่อสินค้าหรือยี่ห้อของบริษัท4.Profit หรือเปอร์เซ็นต์กำไรเมื่อเทียบกับยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ5.Return On Equity (ROE) หรือผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นค่อนข้างสูงและสม่ำเสมอหรือเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทก็ไม่ได้กู้หนี้มากเกินไป6.กิจการสร้างกระแสเงินสดดี ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ7.ผู้บริหารต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีเหตุผลในการตัดสินใจโครงการแต่ละครั้ง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหลักการ KISS Investing ย่อมาจาก Keep It Simple and Stupid เป็นการลงทุนที่ทำให้ง่ายๆเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็น...1.เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอโดยเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย2.ใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลในโครงการเพื่อการลงทุนระยะยาวและการลงทุนเพื่อการเกษียณ3.กระจายความเสี่ยง คือมีการแบ่งลงทุนในหุ้น พันธบัตร และเงินสด4.จัดสัดส่วนการลงทุนใหม่ (Rebalance) หากสัดส่วนการลงทุนบางกลุ่มให้ผลตอบแทนสูงกว่ากำหนด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกตินั้น เกิดราคาตก ส่งผลให้ขาดทุนในภายหน้าได้5.ปักใจยึดมั่นกับหลักการข้างต้น โดยไม่ต้องสนใจภาวะตลาดการเงินที่ผันผวนหลักการ อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียวนั้น คือหลักการกระจายความเสี่ยงแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมในตอนนั้น ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้1.กระจายการถือหลักทรัพย์ในหลายๆกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร หรือการลงทุนในธุรกิจส่วนตัว2.กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนหลายช่วงเวลา3.กระจายการลงทุนในหลายๆประเทศ เพราะตลาดหุ้นแต่ละประเทศมีปัจจัยดีร้ายไม่เหมือนกันในบางช่วงการใช้สูตรหรือหลักการใดๆในการลงทุน สิ่งหนึ่งที่ครีเอเตอร์ต้องตระหนักคือ เราต้องมีปรัชญาในการลงทุนเป็นของตัวเอง นั่นคือการประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์แต่ถ้าหากเราลอกมาใช้ทั้งหมด ความผิดพลาด ความเสียหายมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ นี่จึงเป็นสิ่งต้องเข้าใจ โดยที่เราตระหนักได้ว่าเราต้องระวังอะไรบ้างในระหว่างการลงทุนข้อคิดเตือนใจในการลงทุนหุ้นไทยจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องค่อยๆเรียนรู้สะสมไปเรื่อยๆ เพราะบางครั้งหลักการของต่างประเทศอาจนำมาใช้กับตลาดหุ้นไทยไม่ได้ ด้วยเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ที่ธุรกิจของแต่ละประเทศเติบโตไม่เหมือนกันเครดิตภาพภาพปก โดย thepond057 จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย pikisuperstar จาก freeoik.comภาพที่ 4 โดย user6702303 จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ Super Stock ในตลาดหุ้นเวียดนามรีวิวหนังสือ ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ การลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์เงินเดือนรีวิวหนังสือ รู้เขารู้เรา เล่นหุ้น 100 ครั้ง ชนะ 70 ครั้ง โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ ลงทุนหุ้นอย่างสบายใจ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !